ยานยนต์ » มาสด้า ฟุ้ง..ยอดขาย 7 เดือน ทะลุ 7 พันคัน

มาสด้า ฟุ้ง..ยอดขาย 7 เดือน ทะลุ 7 พันคัน

27 สิงหาคม 2012
1859   0

 

       มาสด้า เผยตัวเลขยอดขายรถที่กำลังพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาได้ทำสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายทะลุ 7,000 คันเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะรถเก๋งเล็กอย่างมาสด้า 2 ที่กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว ด้วยยอดขายสูงสุดถึง 3,340 คัน ส่วนที่กำลังมาแรงนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ รถปิกอัพสไตล์เก๋งมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ที่กวาดยอดขายเกือบ 3,000 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 273%

       นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงของโลซีซัน แต่รถยนต์มาสด้ากลับได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งสปอร์ตน้องใหม่อย่างมาสด้า 2 สปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ซีดาน 4 ประตู ที่ยังคงร้อนแรงมียอดขายรวมทั้ง 2 รุ่น มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 3,340 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 52% ในขณะที่รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 763 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14% ที่สำคัญ รถปิกอัพฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 273% มียอดขายจำนวนทั้งสิ้น 2,959 คัน ซึ่งเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่มาสด้าสามารถทำลายทุกสถิติของตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุดถึง 7,065 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของมาสด้าในประเทศไทย และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 93% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 
       
       ทั้งนี้ นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 130,766 คัน โดยมาสด้ามียอดขายสูงถึง 7,065 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในปีนี้ถึง 5.4% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 มีจำนวน 3,340 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 11% ของยอดขายในตลาดบีคาร์โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 31,167 คัน และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จำนวน 2,959 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเช่นเดียวกัน 5.7% จากยอดรวมของตลาดปิกอัพอยู่ที่ 52,085 คัน และรถยนต์นั่งมาสด้า 3 จำนวน 763 คัน สามารถครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 6.1% จากยอดขายรวมของตลาดซีคาร์อยู่ที่ 12,561 คัน

       “นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 730,187 คัน และในจำนวนนี้เป็นยอดขายของรถยนต์มาสด้าสูงถึง 37,642 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 5.2% โดยแบ่งออกเป็นตลาดบีคาร์เซกเมนต์จำนวน 158,825 และเป็นยอดขายรถยนต์นั่งมาสด้า 2 สูงถึง 21,404 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 13.5% และในตลาดรถปิกอัพมียอดรวมอยู่ที่ 325,707 คัน และเป็นยอดขายของมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ สูงถึง 13,144 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงสุดถึง 5.7% และในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมียอดรวมอยู่ที่ 59,179 คัน และเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า 3 จำนวน 3,106 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5.2%” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
       
       “การที่เราสามารถทำสถิติยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 3,000 คัน มาจนถึง 7,000 คัน ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ของมาสด้า นอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแล้ว การบริการหลังขายเป็นสิ่งสำคัญที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการขยายเครือข่ายของศูนย์บริการทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ต้องเป็นเลิศ และเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า” 

       ทางด้านแม่ทัพการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า หลังการเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม และถือเป็นรถปิกอัพยุคใหม่ที่มาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ ส่งผลให้รถปิกอัพมาสด้าบีที-50 ได้รับกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการผนึกรวม 2 พลังสายพันธุ์สปอร์ต มาสด้า3 ใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เสริมทัพเข้าสู่ตลาดทั้งแฮชต์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู ชูความโดดเด่นด้านดีไซน์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเหนือระดับและให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด พร้อมทั้งการปรับโฉมรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ด้วยการเพิ่มออฟชั่นเบสต์อินคลาสและใส่อุปกรณ์มาตรฐานหลายรายการเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าทั้ง 3 รุ่น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก manager.co.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

www.nakhu.com แหล่งชุมนุมของคนชอบเที่ยว โดยรูปภาพและบทความที่จัดทำขึ้นทั้งหมดในเว็บไซต์ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามผู้ใดทำซ้ำหรือเผยแพร่เชิงพาณิชย์ในทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต