สุขภาพ » ห้ามขายบุหรี่ให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สาธารณสุขเตรียมดันกฎหมาย ต่ำกว่า 20 ห้ามซื้อบุหรี่

ห้ามขายบุหรี่ให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สาธารณสุขเตรียมดันกฎหมาย ต่ำกว่า 20 ห้ามซื้อบุหรี่

4 กันยายน 2013
2671   0

ห้ามขายบุหรี่ให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สาธารณสุขเตรียมดันกฎหมาย ต่ำกว่า 20 ห้ามซื้อบุหรี่

สธ.รุกหนักสกัดบุหรี่ ชง ครม.แก้ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เปลี่ยนคำว่า “ยาสูบ” เป็นอะไรก็ตามที่มีนิโคตินเป็นส่วนประกอบ ดักทางหลบเลี่ยงของผู้ผลิต ขยายอายุเด็กซื้อบุหรี่ได้ จาก 18 ปีเป็น 20 ปีขึ้นไป คาดลดจำนวนผู้สูบรายใหม่ 3 ปีได้ 10% เปลี่ยนใช้ “กระดาษมวนบุหรี่ชนิดพิเศษ” ไม่สูบต่อ 2 นาทีดับเองป้องกันไฟไหม้
smoke1
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่ง ชาติว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 โดยตนจะลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในเร็วๆ นี้ สำหรับสาระสำคัญในการแก้ไข ประกอบด้วย เสนอแก้ไขคำนิยามของคำว่า “ผลิตภัณฑ์ยาสูบ” ซึ่งปัจจุบันหมายถึงบุหรี่ทั่วไป แต่จะแก้ไขเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ” นอกจากนี้จะแก้ไขนิยามคำว่า “ขาย” ให้หมายความรวมถึง “การจำหน่าย จ่ายแจก แลกเปลี่ยน และให้เพื่อประโยชน์ทางการค้า” รวมทั้งแก้ไขนิยามคำว่า “โฆษณา” ให้รวมถึงการสื่อสารทางการตลาดด้วย

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ยังมีการแก้ไขในประเด็นการขาย จากเดิมที่ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงหรือซื้อบุหรี่ได้น้อยลง นอกจากนี้ยังห้ามให้ (แจก) บุหรี่ ห้ามขายโดยใช้เครื่องอัตโนมัติ ห้ามขายทางอินเทอร์เน็ต ห้ามแบ่งขาย ห้ามลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย รวมทั้งวิธีการอื่นใดตามที่ สธ.กำหนด ส่วนประเด็นการโฆษณานั้นจะแก้ไขห้ามให้มีการโฆษณาทั้งยี่ห้อและ ชื่อบริษัท ทั้งบุหรี่ที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ และห้ามแสดงซองบุหรี่ ณ จุดขายด้วย

Tobacco2

ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ โดยเสร็จสิ้นไปแล้ว 2 ภาค คือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในภาคเหนือในวันที่ 17 สิงหาคม 2555 ที่ จ.เชียงราย และภาคกลาง วันที่ 14 กันยายน 2555 ที่ จ.นนทบุรี พร้อมทั้งได้แจ้งเวียนหน่วยงานราชการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สอบถามความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ www.tobaccohearing.com เฟซบุ๊กhttp://apps.facebook.com/tobaccohearing และอีเมล์ tobaccohearing@gmail.comส่วนใหญ่ทุกฝ่ายเห็นด้วย โดยจะปรับปรุงแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด และนำเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบระดับชาติ หรือ คบยช. และ ครม.พิจารณาต่อไป คาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ สามารถประกาศใช้ในปีหน้า ถือว่าเป็นกฎหมายควบคุมยาสูบชั้นนำระดับโลก
ด้าน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นโยบายป้องกันการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบจะต้องห้ามส่วนราชการทุกหน่วยรับการอุปถัมภ์จากธุรกิจยาสูบ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกระเบียบกำหนดให้บริษัทบุหรี่ต้องจัดส่งรายงานประจำปีให้คณะกรรมการควบคุมยาสูบ และออกระเบียบการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับบริษัทบุหรี่ให้โปร่งใส มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา.
PNSOC560525002000401
รมว.สธ.กล่าวว่า นอกจากนี้จะเสนอให้ ครม.เห็นชอบเพิ่มเติมกฎกระทรวงอีก 2 ประเด็น คือ 1.กฎกระทรวงว่าด้วยบุหรี่ปลอดไฟไหม้ โดยจะมีการบังคับให้บุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศและนำเข้าใช้ “กระดาษ พิเศษ” ซึ่งตรงนี้ผู้ประกอบการจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยกระดาษมวนบุหรี่ที่ใช้ใหม่นั้น  มีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ถ้าไม่สูบจะดับ ได้เองในสองช่วงของบุหรี่หนึ่งมวน คือสมมติว่า จุดบุหรี่หนึ่งมวนทื่ใช้กระดาษพิเศษนี้ ถ้าไม่สูบบุหรี่จะดับเองได้ในช่วงที่หนึ่ง พอจุดบุหรี่เพื่อจะสูบใหม่แล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่สูบต่อเนื่อง บุหรี่จะดับเอง ได้ในช่วงที่สอง ซึ่งแตกต่างจากบุหรี่ในปัจจุบัน บุหรี่ก็ไม่ดับจนกว่าจะหมดมวน เป็นการสร้าง ควันบุหรี่มือสอง ดังนั้นการเปลี่ยนมาใช้กระดาษชนิดใหม่นี้จะทำให้ควันบุหรี่มือสองลดลง และลดปัญหาไฟไหม้

“ปัจจุบันมีประเทศที่ผลิตบุหรี่ปลอดไฟไหม้ อาทิ สหรัฐอเมริกา ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 และในเดือน ก.ค.ปี 2554 สหรัฐใช้บุหรี่ปลอดไฟไหม้ครบทั้ง 50 รัฐ รวมทั้งประเทศแคนาดา ใช้มาตั้งแต่ปี 2548 ออสเตรเลียใช้ปี 2553 ฟินแลนด์ใช้ปี 2553 และประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ได้รับหลักการหันมาผลิตบุหรี่ปลอดไฟไหม้แล้ว หากมีผลบังคับใช้ได้ ไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีบุหรี่ปลอดไฟไหม้ใช้” รมว.สธ.กล่าว

X8973999-125

นายจุรินทร์กล่าวว่า กฎกระทรวงที่จะมีการแก้ไขอีกฉบับคือ ห้ามเติมสารปรุงแต่งในบุหรี่เพื่อจูงใจให้มีผู้สูบเพิ่มขึ้น พบว่า บุหรี่จำนวนมากมีการเติมสารหลายชนิดลงไปเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นผลดีต่อ สุขภาพ โดยปัจจุบันมีการลักลอบเติมสารต่างๆ เช่น วิตามินซี กรดอะมิโน กรดผลไม้ กลิ่น หรือรสกาแฟ ช็อกโกแลต เพื่อจูงใจวัยรุ่นและผู้หญิงให้สูบบุหรี่ ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการเสนอ ครม.เพื่อแก้ไขกฎกระทรวงทั้งสองฉบับให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และคาดว่าจะสามารถ บังคับใช้ได้ภายใน 4 เดือน แต่จะให้เวลาผู้ผลิตและนำเข้าดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงใหม่ภายใน 1 ปี นับจากกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ และคาดว่ามาตรการทั้งหมดนี้จะสามารถลดจำนวน ผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบัน จากร้อยละ 20 ให้เหลือร้อยละ 10 ในปี 2557

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

www.nakhu.com แหล่งชุมนุมของคนชอบเที่ยว โดยรูปภาพและบทความที่จัดทำขึ้นทั้งหมดในเว็บไซต์ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามผู้ใดทำซ้ำหรือเผยแพร่เชิงพาณิชย์ในทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต