ศิลปะ-วัฒนธรรม » ประวัติความเป็นมา พระธาตุพนม ศูนย์รวมจิตใจ ไทยอีสาน ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้

ประวัติความเป็นมา พระธาตุพนม ศูนย์รวมจิตใจ ไทยอีสาน ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้

18 มกราคม 2013
10520   0

prathatphanom temple-22

 

ประวัติความเป็นมา พระธาตุพนม ศูนย์รวมจิตใจ ไทยอีสาน ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้

พระธาตุพนม ถือเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจของประชาชนจากทุั่วทุกสารทิศ ที่ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทย โดยเฉพาะชาวอีสาน รวมถึงเพื่อนบ้านฝั่งลาว ที่ถึงช่วงเดือน 3 ข้างขึ้นจนถึงสิ้นเดือน คือ 31 มกราคม ถึง 8 กุมภาพันธ์ของทุกปี ประชาชนจากทุกสารทิศจะพากันมานมัสการองค์พระธาตุพนมเพื่อเป็นสิริมงคลแแก่ตนเองและครอบครัว หลายท่านมีความเชื่อว่า ถ้าได้มีโอกาสมาแสวงบุญที่พระธาตุพนมด้วยจิตใจที่สงบร่มเย็น เมื่อตายแล้วจะได้ไปขึ้นสวรรค์ ดังนั้น อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตก็ขอให้ได้มาไหว้องค์พระธาตสักครั้ง

ช่วงปีใหม่ 2556 ผมก็ได้มีโอกาสไปนมัสการ พระธาตุพนม อ.ธาตพนม จ.นครพนม กับบรรดาญาติพี่น้องอีกครั้ง ครั้งนี้ก็นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ไม่รู้จะได้ขึ้นสวรคค์หรือลงนรกกันแน่ ….?

PRathartpanom

ขอเล่าประวัติความเป็รมาของ พระธาตุพนม ซะหน่อย

พระธาตุพนม ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรวิหาร ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบล และอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม สถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุ อยู่บนภูกำพร้า หรือดอยกำพร้า ภาษาบาลีว่า กปณบรรพตหรือ กปณคีรี ริมฝั่งแม่น้ำขลนที อันเป็นเขตแขวงนครศรีโคตบูรโบราณ
ตามตำนานพระธาตุพนม ในอุรังคนิทานกล่าวว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยทางอากาศ ได้มาลงที่ดอนกอนเนา แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ (เวียงจันทน์) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา จากนั้นได้เสด็จไปตามลำดับ ได้ทรงประทานรอยพระพุทธบาทไว้ที่ โพนฉัน (พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แล้วเสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขง ไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงฮังเมืองสุวรรณเขต) แล้วกลับมาทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) ที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ
พญาอินทร์ได้เสด็จมาเฝ้าและทูลถามพระพุทธองค์ ถึงเหตุที่มาประทับที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์เมื่อนิพพานแล้ว พระมหากัสสปะ ผู้เป็นสาวก ก็จะนำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน

พ.ศ.2483 – 2484 รัฐบาลชุดของ จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างสงครามพิพาท ไทย-ฝรั่งเศษในอินโดจีน กรมศิลปากรไทย อันมีหลวงวิจตรวาทการ อธิบดีกรมศิลปากรเป็นหัวหน้า ได้ซ่อมแซมพระธาตุพนมโดยเทคอนกรีตเสริมเหล็กจากเอวขึ้นไปจนถึงยอดสุด และต่อยอดขึ้นไปสูงอีก 30 เมตร ดังนั้นพระธาตุจึงสูง 53 เมตร ฉัตรทองคำสูง 4 เมตร

ในปีนั้น พ.ศ.2484 กรณีพิพาทรุนแรงมากขึ้นในเดือนยี่เพ็ญ พระธาตุพนมถูกฝรั่งเศษทิ้งระเบิดถึง 60 ลูก แต่ไม่มีอันตราย ลูกระเบิดส่วนมากตกลงที่บึงหน้าวัด

พระธาตูพนม

 

 

 

22

เมื่อปี พ.ศ. 2518 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำวันหนึ่ง ตอนค่ำของวันที่11สิงหาคม พ.ศ.2518 เวลาประมาณ 19.30 นาฬิกา ชาวเมืองนครพนมที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงกับองค์พระธาตุพนมต้องตกใจกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เช้าวันรุ่งขึ้นชาวไทยทั่วสารทิศก็ต้องตะลึงพรึงเพริดทันทีที่ทราบว่า สิ่งที่อยู่ภายในเป็นสิ่งสำคัญที่บรรจุเรื่องราวในอดีตที่เป็น พระกรุ พระธาตุพนม ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุเก่าเเก่นับพันปีได้ล้มครืนลงมา ทางราชการจึงได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2519 ถึง พ.ศ.2522ให้คงสภาพเดิม มีรูปทางสี่เหลี่ยมจตุรัสเหมือนเดิม สูงเท่าองค์เดิม แต่เล็กกว่าองค์เดิมเล็กน้อย และพระธาตุองค์ใหม่ได้ยืนยงคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

องค์พระธาตุพนม มีประวัติที่ยาวนาน เป็นที่เคารพสักการะของพี่น้องชาวพุทธและพุทธศาสนิกชนทั้ง 2 ฟากฝั่งแม่น้ำโขง องค์พระธาตพนมเป็นพระธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระ อุรังคธาตุ ซึ่งก็คือพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระอุระ(อก)ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระธาตุพนมมีความสูงจากฐานจนถึงยอดฉัตร 57 เมตร ฉัตร 5 ชั้นเป็นทองคำ 16 ก.ก. บนยอดสุดเป็นบัวตูม(ทำด้วยทองคำขาว)ประดับด้วยเพชรอีก 200 เม็ด

prathatphanom temple-6

 

prathatphanom temple-29

 

งานนมัสการพระธาตุพนมประจำปี เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3
คำนมัสการพระธาตุพนมมีดังนี้
“กปณคิริสฺมิ ปพฺพเต มหากสฺสเปน ฐาปิตํ พุทฺธอุรงฺคธาตุ สิรสา นมามิ”
แปลว่า “ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระบรมอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปเถระเจ้า นำมาฐาปนาไว้ ณ ภูกำพร้า ด้วยเศียรเกล้า”

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

www.nakhu.com แหล่งชุมนุมของคนชอบเที่ยว โดยรูปภาพและบทความที่จัดทำขึ้นทั้งหมดในเว็บไซต์ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามผู้ใดทำซ้ำหรือเผยแพร่เชิงพาณิชย์ในทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต