เมื่อคนไกลบ้านได้กลับบ้าน ตู้เย็นของพ่อ-แม่เป็นอย่างไร.?

ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะทำงานต่างถิ่น ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนไปหลายร้อยกิโล แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทุกท่านไม่เคยลืมคือ…..การกลับบ้าน….. ส่วนใหญ่แล้วความรู้สึกเมื่อได้กลับบ้านคือ กลับไปเยี่ยมพ่อ่-แม่ กลับไปพักผ่อน หลบหนีความวุ่นวาย บรรยากาศที่เคร่งเครียดกับการทำงาน การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น สังคมที่มีแต่ความอิจฉาริษยา นินทาว่าร้าย อะไรอีกเยอะเเยะสารพัด แต่เมื่อไหร่ที่เป็นช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอม ก็จะได้กลับบ้าน มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเหลือเกิน รู้สึกว่าจะคอยนับถอยหลังตลอดเวลา พะวังเรื่องตั๋วโดยสาร เดี๋ยวจะได้นั่งรถเสริม ไหนจะของฝากของต้อน มันเป็นความรู้สึกสับสนปนความตื่นเต้นที่จะได้กลับไปพบคนที่เรารัก ซึ่งท่านก็คงตื่นเต้นไม่แพ้เราเช่นกัน ภายใต้แววตาที่เลื่อนลอย คอยทางว่าเมื่อไหร่ลูกยาจะกลับมาบ้านซะทีว่าจะทำนู่นนี่ที่ลูกชอบให้กิน แต่พอเปิดตู้เย็นออกมา….เฮ้อ จะทำอะไรดีน้อ

ตู้เย็นของพ่อ-แม่ตู้เย็นของพ่อ-แม่

ตู้เย็น พ่อ แม่ตู้เย็น พ่อ แม่

บางครั้งเราอาจจะลืมนึกไปว่าท่านไม่สะดวกที่จะไปตลาด ไม่รู้จะเอาอะไรมาใส่ตู้เย็นนอกจากน้ำเปล่าใส่ขวดโค้ก เอาไว้ดื่มเย็นๆตอนไปนา หรือบางครั้ง เงินที่ท่านส่งมาให้พ่อ-แม่ทุกเดือนๆ(บางท่านก็ไม่เคยส่ง หรือส่งบ้าง ไม่ส่งบ้าง)อาจจะหมดไปกับการลุ้นหวยหุ้น เล่นแชร์ ลุ้ยมวยตู้ จนทำให้ตู้เย็นเป็นดังรูปข้างบน ถึงยังไงก็ตาม เมื่อเราได้มีโอกาสกลับมาบ้าน สิ่งหนึ่งที่เราจะทำให้พ่อกับแม่มีความสุขบ้าง ก็คือการหานู่นนี่นั่นมาตุนใส่ตู้เย็นไว้ เป็นอะไรที่กินง่ายๆ เก็บไว้กินได้นาน และประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ เช่น นม ไข่ เนื้อหมู ปลาหมึก ปลาสด เป็นต้น

ตู้เย็น พ่อ แม่

ตู้เย็น พ่อ แม่ตู้เย็น พ่อ แม่

รับรองเลยว่าถ้าท่านกลับไปทำงานแล้ว พ่อกับแม่มาเปิดตู้เย็นดู ก็จะนึกปลื้มใจพร้อมกับเผยรอยยิ้มมุมปากเล็กๆที่ลูกมันยังรักและห่วงเราอยู่…….ครั้งต่อไป อย่าลืมทำตู้เย็นที่บ้านพ่อ-แม่ให้เต็มก่อนกลับไปทำงานนะครับ

เขื่อนลำปาว ร้านอาหารริมเขื่อน ธารน้ำไหล วิถีชีวิตคนน้ำดำ

เขื่อนลำปาว ร้านอาหารริมเขื่อน ธารน้ำไหล วิถีชีวิตคนน้ำดำ หลายท่านอาจจะเคยตอบคำถามเพื่อนๆสมัยประถมว่า เขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทยชื่ออะไร…..ตอบถูกใช่ไหมละครับ เขื่อภูมิพล…เฮ้ยไม่ใช่ เขื่อนลำปาวต่างหาก วันนี้ได้มีโอกาสแวะไปทานข้่าวเที่ยงที่ใต้เขื่อน บริเวณที่เขาปล่อยน้ำหรือสปินเนอร์อะไรประมาณนี้แหละครับ ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะมีคน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตก น้ำคงเยอะและเป็นวันราชการไม่ใช่วันหยุด แต่ผิดคาด มีคนแวะเวียนมาจับจองที่นั่งริมน้ำอย่างไม่ขาดสาย เพราะน้ำเหนือเขื่อนยังน้อย ปล่อยออกไปได้ไม่เยอะ ที่นี่สร้างรายได้ให้กับแม่ค้า(หรือนายทุนหว่า)อย่างเป็นกอบเป็นกำ เรียกได้ว่า  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินให้จังหวัดได้ไม่น้อยทีเดียวในแต่ละปี เพราะสอบถามจากแม่ค้าแล้ว วันหยุดช่วงนี้อย่าให้พูดถึง เต็มตลอด เพราะฉะนั้น ถ้าท่านใดวางแผนจะพาสาวมาเดทหรือพาครอบครัวมาเที่ยว ก็ออกจากบ้านแต่เช้าหน่อย มาถึงนี่ประมาณ10โมงกว่ากำลังดี เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิอิ หลังจากทานอาหารเสร็จก็เลยเก็บภาพมาฝากเล็กๆน้อยๆครับผม

ลานจอดรถ กว้างขวาง

ร้านน้องเม็ด กระท่อมริมปาว

ทางลง ระวังลื่น

ทางลง ระวังลื่น ถ้าหมื่น หัวแตกแน่

ทางลง กระท่อมริมปาว

ทางลง กระท่อมริมปาว

เข้ากันไหม?

เข้ากันไหม?

แม่เป้งเป็นออร์เดิฟ เสริฟร้อนๆ

แม่เป้งเป็นออร์เดิฟ เสริฟร้อนๆ

ปลานิลเผา สดๆ หวานๆ อย่างนี้สิ

ปลานิลเผา สดๆ หวานๆ อย่างนี้สิ

ส้มตำ พริก 2 เม็ด แซ่บ....บรื๊อ...

ส้มตำ พริก 2 เม็ด แซ่บ….บรื๊อ…

ผู้ร่วมการเดินทาง

ผู้ร่วมการเดินทาง

 

ธารน้ำไหล

ธารน้ำไหล

ยายกะลังตกปลา หลายเอ้ย

ยายกะลังตกปลา หลายเอ้ย

ทอดแหโดยไม่ใช้น้ำมัน

ทอดแหโดยไม่ใช้น้ำมัน

กลับบ้านดีกว่า

กลับบ้านดีกว่า

กระท่อมริมลำปาว

กระท่อมริมลำปาว

กระท่อมริมลำปาว2

กระท่อมริมลำปาว2

ไว้มารอบหน้าจะเก็บอีกหลายๆมุมมาให้ชมนะครับ สวัสดี…

กระต่ายหูตก เพื่อนยามเหงาที่ไม่เห่าเสียงดัง

กระต่ายหูตกหรือ Holland lop จัดเป็นกระต่ายหูตกตัวเล็กที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนเลี้ยงกระต่ายทั้งในไทย และต่างประเทศ  เพราะนอกจากจะเป็นกระต่ายที่เชื่อง ฉลาดแสนรู้ หลายคนยังบอกว่ามันช่างน่ารักเหมือนตุ๊กตาซะจริง ๆ แต่ก่อนที่จะตกหลุมรักกระต่ายพันธุ์นี้จนอยากหามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาแล้วล่ะก็ ลองไปทำความรู้จักกับเจ้าขนปุย ฮอลแลนด์ ลอป กันก่อนดีกว่าครับ

กระต่ายหูตก holland lop

กระต่ายหูตก holland lop

ฮอลแลนด์ ลอป (Holland lopHolland lop) เป็นกระต่ายในกลุ่มหูตกที่มีขนาดเล็กสุด Adriann de Cock ได้ทำการพัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมา ในปี ค.ศ.1951 จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง French Lops กับ Netherlands Dwarf’s. โดยเดิมตั้งชื่อว่า ” Dwarf Lop” แล้วแผลงมาเป็น Holland lop ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กระต่าย ฮอลแลนด์ ลอป มีจุดเด่นอยู่ที่หัวกลมโต ลำตัวสั้น กะทัดรัด น้ำหนักน้อย ขนสั้นนุ่มลื่นเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วน่ารักเหมือนตุ๊กตา ทั้งยังมีหุ่นที่แข็งแรงบึกบึน ความสูงและขนาดลำตัวมีความสมดุล หูหนาและมีขนขึ้นเต็ม ความยาวของหูต้องสัมพันธ์กับหัวและตัว โดย ฮอลแลนด์ ลอป ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักของตัวผู้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม ส่วนตัวเมีย 1.7-1.8 กิโลกรัม

ลูกกระต่ายหูตก อายุ 2 สัปดาห์

ส่วนเรื่องนิสัย ฮอลแลนด์ ลอป ขึ้นชื่อว่าเป็นกระต่ายกินจุพอสมควร เพราะสนุกกับการกินเอามาก ๆ โดยเฉพาะอาหารเม็ด หลายท่านอาจจะเคยเลี้ยงกรต่ายบ้านที่มีคนเอามาขายตามตลาดนัด งานกาชาด ตัวเล็กๆน่ารัก แต่เอาไม่กี่วันก็ตาย เพราะมันยังเป็นกระต่ายเด็ก ยังไม่อย่านมเลย บางท่านอาจจะให้ผักที่เอามาจากตลาดให้กิน ก็ตายเพราะสารฆ่าแมลงได้เพราะฉะนั้นอย่าไปสนับสนุนคนขายกระต่ายเด็กนะครับ นอกจากนี้เจ้าหูตกยังฉลาดแสนรู้ สามารถจดจำชื่อของตัวเองและเจ้าของได้อย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันก็มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ก็ยังต้องการเวลาที่จะได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าของอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง การเลี้ยงควรให้อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนจัด ลมไม่พัดแรง และที่สำคัญคือ ต้องไม่ชื้นแฉะ ซึ่งฟาร์มเพาะกระต่ายใหญ่ๆนั้นเขาจะเลี้ยงเจ้าหูตกไว้ในห้องแอร์ เพราะเจ้าหูตกไม่ค่อยชอบอากาศร้อนซักเท่าไหร่

ลูกกระต่ายหูตก แรกเกิด

สำหรับความหลายหลายของเจ้าหูตก ฮอลแลนด์ ลอป มีให้เลือกมากมายถึง 7 กลุ่มสี คือ กลุ่มอะกูติ (Agouti) กลุ่มสีขาวแต้ม (Broken) กลุ่มสีขาวมีมาร์กกิ้งแปดแต้ม (Pointed White) กลุ่มสีพื้น (Self) กลุ่มสีเฉด (Shaded) กลุ่มสีพิเศษ (Ticked) และกลุ่มสีอื่น ๆ (Wide Band) รวมทั้งกลุ่ม สร้อยทอง หรือ ออตเตอร์ ที่ได้การรับรองล่าสุดจาก ARBA

กระต่ายหูตก

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

ส่วนราคาขาย ฮอลแลนด์ ลอป ราคาเกรดเลี้ยงทั่วไป จะเริ่มกันที่ประมาณ 3,000 – 3,500 บาทขึ้นไป แต่ของผู้เขียนก็เลี้ยงเหมือนกัน เลี้ยงแบบบ้านๆ สวยในเกรดเลี้ยงทั่วไป ราคา ตัวละ 1,000 บาท ท่านใดสนใจ อยู่แถวกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหารก็สามารถติดต่อได้นะครับ 080-4614493 lแต่ในเกรดประกวด จะเริ่มตั้งแต่ 8,000 บาท จนถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

ชินชิล่า จอมซน

Broken chin จอมป่วน

เอ้า..ใครที่รักสัตว์ และกำลังมองหาเพื่อนใหม่อยู่ล่ะก็ ฮอลแลนด์ ลอป ก็จัดเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าพิศมัยไม่เบาเลยละครับ

 

อยู่ อ.นาคู กาฬสินธุ์ ตั้งครรภ์แล้วควรฝากท้องที่ไหนดี

สมุดฝากครรภ์ กาฬสินธุ์

อยู่ อ.นาคู กาฬสินธุ์ ตั้งครรภ์แล้วควรฝากท้องที่ไหนดี….?

สืบเนื่องจากผู้เขียน ได้รับเกียรติอันสูงส่ง จากคนบนฟ้า ได้ประทานผู้สืบสายเลือดลงมาเป็นบุตร(เวอร์ไปแล้ว….) พอรู้ว่าภรรยาเริ่มตั้งครรภ์เพราะประจำเดือนขาดหายไปประมาณ 2 เดือน นับดูแล้วก็น่าจะถึงเวลาของการฝากครรภ์ เพื่อให้ผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านช่วยดูแลสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่ารักในท้องใบน้อยของศรีภรรยาของผู้เขียน แต่คำถามก็คือ เราจะฝากกับใครล่ะ ไปฝากยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง …..?

1.เตรียมข้อมูล ความรู้เบื้องต้นในการมีบุตร

คือต้องบำรุงอะไรบ้าง เช่นควรกิน โฟลิคตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ถึง 3 เดือนแรก ยาบำรุงเลือด DHA 70% นมเสริมแคลเซี่ยม เน้นปลาเป็นหลัก ผักเป็นรอง ผงชูรสให้เลี่ยง น้ำอัดลมให้ถอย กินอยู่เพื่อลูกน้อย ออกมาสุขภาพแข็งแรง

2.จะฝากท้องที่ไหน คือ ฝากกับแพทย์ที่คลีนิค ฝากกับแพทย์ที่โรงพยาบาล(ไม่รู้จะเจอแพทย์ท่านไหน) ฝากกับพยาบาลที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน

อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกแลัความศรัทธาของแต่ละท่าน แต่ถ้าอยากให้หมอคนนี้ทำคลอดแนะนำให้ไปฝากกับท่านที่คลีนิคตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อย(ไปตอนท้องแก่ท่านอาจไม่รับ)

3.ท่านจะเลือกวิธีคลอดแบบใด(ถ้าไม่มีภาวะผิดปกติ)

คลอดเองตามธรรมชาติ เจ็บตอนเบ่ง แต่มันก็เป็นกลไกธรรมชาติ ร่างกายฟื้นตัวเร็ว หรือจะคลอดแบบผ่าทางหน้าท้อง ไม่เจ็บตอนผ่าเพราะโดนยาสลบหรือบล๊อกหลัง แต่หลังจากคลอดเสร็จจะเจ็บแผลมาก ใช้เวลาฟื้นฟูนาน ยกของหนักไม่ได้ไปหลายเดือน ที่สำคัญ ปอดของเด็กไม่ได้ถูกบีบรักจากช่องคลอด ทำให้ปอดไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก

เด็กแรกเกิด

4.ถ้าท่านเลือกที่จะคลอดกับแพทย์(ฝากพิเศษ)

ในโซนจ.กาฬสินธุ์ กับสกลนคร เพราะผมอยู่ อ.นาคู สกลกับกาฬสินธุ์ระยะทางการเดินทางไปฝากท้องใกล้เคียงกัน พบว่า ที่แรกที่ผมไปคือ สกลนคร แพทย์สูตินรีเวช คนไข้เยอะมาก โดยเฉพาะแพทย์ท่านที่ตั้งคลีนิคอยู่ที่สามแยก ธ.กรุงเทพ สกลนคร ใกล้ๆกับหอการค้าสกลนคร จนท่านไม่สามารถรับคนไข้ฝากครรภ์ได้อีก จึงเดินจูงมือกันข้ามถนน ต๊อกๆๆ ไปถามแพทย์สูติอีกท่านที่อยู่ตรงข้ามกัน ก็ปรากฎว่าไม่สามารถรับคนไข้ฝากครรภ์ได้อีก…. อืม แค่ 2 ที่ก็คงจะพอเพียงแล้วแหละ เราคงไม่มีวาสนาต่อกันที่จะเกิดในแผ่นดินสกล….เฮ้อ บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ามีคนรู้จักใน รพ.ที่เราจะไปคลอดให้สืบข้อมูลมาให้เรียบร้อยว่าหมอไหนรับคนไข้และดูแลดีบ้าง จะได้ไม่เสียเวลา เสียค่าน้ำมันฟรีๆ 555+ ในวันถัดมาจึงเดินทางเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อที่จะมาฝากกับแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ใครๆก็แนะนำมาพบท่าน คลีนิคท่านตั้งอยู่ซอย รพ.ธีรวัฒน์ ก่อนจะถึงโต้รุ่งฝั่งขวามือ รอตรวจตอนเช้าตรู่ คนไข้เยอะพอสมควร พอท่านเดินเข้ามา เฮ้ย…หมอทำไมวัยรุ่นซิ่งๆเลยอะ ท่านแต่งตัวสบายๆ น่ารัก พูดคุยเป็นกันเอง เจาะเลือดภรรยาผมไป 1 เข็ม ถ้ามีผิดปกติ ผมอาจจะโดนด้วยครั้งหน้า เหอๆ ได้อุลตร้าซาวด์ พบว่าเด็กในท้องมีอายุครรภ์ 11 สัปดาห์ กำหนดคลอดเดือน ก.พ.56 พอเห็นรูปหัวใจลูกเต้นตุ๊บๆในจออัลต้าซาวด์แล้วรู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก หลังจากได้รับการยืนยันการมีตัวตนอย่างเป็นทางการของการตั้งครรภ์ เพราะที่ผ่านมายังงงๆ ท้อง-ไม่ท้อง แต่ก็ดีใจมากครับ จะเป็นพ่อคนแล้ว ต้องหาข้อมูลเยอะๆแล้วละ ไว้ครั้งหน้าหมอนัด 2 อาทิตย์ให้ยาบำรุงเลือดกับโฟลิคมากิน 14 เม็ดเป๊ะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะครับ.