บาสโลปประยุกต์ เต้นดีๆ พุงมีลด

หลังจากได้ดูหนังเีรื่อง สบายดีหลวงพระบาง มีฉากหนึ่งที่ทีมนักแสดงพากันเต้น”บัดสลบ”พร้อมกันหลายคน เต็มถนน เต็มซอย ดูแล้วน่ารักดี ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่า”บัดสลบ” หรือ บาสโลป หรือ บาสะโล๊ฟ (paslop)มาจากภาษาฝรั่งเศส

 

บาสโลป เป็นท่าเต้นที่ชาวลาว(บรรพบุรุษผม)นิยมเต้นกันในงานรื่นเริงต่างๆ

หัดไว้ไม่เสียหลาย หากมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองลาวบ้านพี่เมืองน้องของเราก็จะร่วมวงสนุกได้อย่างไม่เขอะเขิน

 

วันนี้เลยเอาท่าเต้นบาสโลปประยุกต์ นำทีมโดยท่าน ผอ.รพ.สต.นาคู คุณไพรวรรณ มูลสาระหรือหมอไพร ร่วมกับทีม อสม.ต.นาคูนำโดยคุณแจ่มจันทร์ ร่วมพลังกันเต้นบาสโลป ซึ่งทุนเดิมของสาวนาคูก็น่ารักเอวอ่อนกันอยู่แล้วบวกกับสาวบ้านนาคูชอบฟ้อน ชอบรำภูไท เป็นทุนเดิม ก็เลยนำมาประยุกต์ใส่กัน ให้ได้มีการออกกำลังกายในทุกส่วนสัดของร่างกาย

 

ผลที่ได้ก็ออกมาดังที่เห็นครับ รพ.สต.ก็คือโรงพยาบาลที่ส่งเสริมสุขภาพบวกกับภูมิปัญญาดั้งเดิม เพื่อส่งเสริมให้สุขภาพคนในชุมชนเข้มแข็ง

 

 

ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปครับ ผมยังเตะเห็ดเลย หมออนามัยกับอสม.นาคูนี่เก่งจริงๆ ยอมรับๆ

 

 

รอกกะลามะพร้าว หุบ-อ้า-อ้า-หุบ ป้องกันไหล่ติด พิชิตโรค

เห็นในโทรทัศน์ เขาเอากะลามะพร้าวมาร้อยเชือกเข้าไป 2 เส้น แล้วดึงไป ดึงมา เป็นนวัตกรรมการออกกำลังกายในผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่คนวัยทำงานที่ใช้แขนทำนู่น ยกนี่บ่อยๆ ทำแขนกล้ามเนื้อที่แขนล้า หดเกร็งผิดจังหวะแล้วก็นำมาซึ่งอาหารปวด แล้วก็จบด้วยยาคลายเส้น(คลายกล้ามเนื้อ)…เฮ้อ

 

เห็นเขาทำแล้วเข้าท่าเเฮะ น่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนในชุมชนบ้านนาคูได้ไม่ยาก ประกอบ รพ.สต.นาคูต้องไปโชว์บูธเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ในงานมหกรรม นวัตกรรมสุขภาพ กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลนาคู ก็เลยทดลองทำกับพี่สำราญ(ผู้อำนวยการด้านความสะอาดรอบๆ รพ.สต.นาคู)และน้องนัดพบ(ลูกชายพี่สำราญ)

 

ตอนแรกคิดว่าเขาทำกันยังไง ไม่เห็นรอยต่อของลูกกะลาเลย หรือว่าเจาะรูแล้วเอาไปวางที่รังมดแดง ให้มดช่วยกัดกินเนื้อมะพร้าวจนหมด 555+(ผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ) แต่คิดว่า กาวร้อนกับทรายละเอียด น่าจะช่วยยึดลูกกะลาให้ติดกันได้ไม่ยากนัก แบบนี้ต้องลองผิดลองถูกครับ

 

เริ่มจากอุปกรณ์กันก่อนเลย (สำหรับทำรอกกะลามะพร้าวจำนวน 1 ลูก)

1.กะลามะพร้าวแก่ๆ ขนาดพอเหมาะแล้วแต่ชอบ กลางๆกำลังดี ผ่าซีกกึ่งกลาง เอาเนื้อมะพร้าวออกให้หมด จำนวน 1 ลูก

2.เชืือกไนลอน ขนาด 3-5 มม.กำลังดี ตัดยาว 3 เมตร แล้วแต่ชอบครับ สั้นกว่านี้จะเล่นง่ายกว่า แต่ไม่ค่อยมันส์ จำนวน 2 เส้น

3.สายยางเขียวขนาด 5/8 ยาว 30 ซม. จำนวน 4 ท่อน

4.สีย้อมไม้ + แปรงทา

5.สว่าน หัวใหญ่หน่อย ขนาดใหญ่กว่าเชือกไนลอนนิดหน่อย

6.กระดาษทรายเบอร์หยาบหน่อย

7.กาวร้อน+ทรายหรือดินละเอียด

8.มีดพร้าหรือปังตอเอาไว้ตัดแต่งกะลา+ตัดเชือก

9.ไฟแช๊ค+เทียน+น้ำ 1 แก้ว

10.ใบเลื่อยไว้ตัดสายยางเขียว

 

ขั้นตอนการทำดูตามคลิปได้เลยครับ ง่ายดี

 

 

ร้านมายรูม จำหน่ายชุดคลุมท้องแฟชั่นเก๋ๆ น่ารักๆในตัว จ.กาฬสินธุ์

วันนี้แดดร่มลมตก หางคิ้วขวากระตุก ตึ๊กๆ ห่วยคือสิได้เสียเงินบ่น้อวันนี้ เพราะวางแผนกับภรรยาและลูกชาย ว่าจะเข้าไปตัวจังหวัด โดยเดินทางจากนาคูเข้าไป อ.เมือง ระยะ 80 กว่าโล ว่าจะเอาน้องต้า(ford fiesta)ไปเช็คระยะตามกำหนดที่ศูนย์ฟอร์ดดีดี กาฬสินธุ์ แต่ไม่มีโอกาสเก็บรูปมาโปรโมท โฆษณาให้ วันนี้ยุ่งจริงๆ ไว้คราวหน้าจะมาจัดเต็มสำหรับศูนย์ฟอร์ดดีดี กาฬสินธุ์

น้องต้า

น้องต้า

หลังจากเช็คน้่องต้าเรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งรถเข้าไปในเมือง(ศูนย์ฟอร์ดอยู่บายพาส) ตาก็ดันแว้บไปเจอหุ่นสวมชุดคลุมท้องตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ 2 ตัว ก็เลยลองแวะลงไปดู เผื่อซื้อชุดคลุมเป็นของขวัญวันเกิดศรีภรรยา 

ร้านมายรูม

หลังจากเดินเข้าไปในร้าน ชื่อร้านว่า มายรูม(ห้องของฉัน) ก็พบชุดคลุมท้องแฟชั่น เสื้อผ้าคนท้อง กางเกงคนท้อง ชุดคลุมท้องใส่ทำงาน ชุดคลุมท้องเกาหลี ชุดคลุมท้องน่ารักๆ เสื้อคนท้อง เสื้อผ้าคลุมท้อง กางเกงคลุมท้อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อ 9 months เนื้อผ้าอย่างดี ซักแล้วไม่ยุ่ย(คนขายบอกงั้น) เสื้อผ้าเด็กน้อยน่ารัก กระเป๋าแฟชั่นสำหรับคุณผู้หญิง รองเท้าสวยๆ สินค้ามีให้เลือกพอสมควร เจ้าของร้านชื่อ พี่ป๋อง บอกว่าเพิ่งเปิดร้านได้ 3 วันเอง ของยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ผมก็ว่าเยอะแล้วนะครับ

ชุดคลุมท้องให้เลือกมากมาย

การตกแต่งภายในร้านออกโทนสีชมพูสดใส มีชั้นวางสินค้าเป็นกระจกใสเดิ้ลมากมาย คนขายก็ใจดี โปรช่วงเปิดร้านใหม่ ลดไปเลย 10%

ชุดคลุมท้องให้เลือกมากมาย

 

แล้วแม่บ้านผมก็เลือกชุดคลุมอยู่พักใหญ่ บอกเอาไว้ใส่ไปทำงาน ตอนนี้อายุครรภ์ เกือบ 7 เดือนและ  แม่บ้านบอกว่าเยอะจนเลือกไม่ถูก มีแต่อันถูกใจ ตัดสินใจลำบาก(ผมเริ่มปาดเหงื่อ….มีแววว่าจะได้หลายตัว สมกะคิ้วขวากระตุกแต่เช้า…ฮา…ฮา) 

ชุดน้องหนู น่ารักๆ

สาวๆท่านใดที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ จ.กาฬสินธุ์หรือใกล้เคียง อยากได้ชุดคลุมท้องสวยๆ น่ารักๆ เชิญแวะมาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน มายรูม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตรงวงเวียนน้ำพุ ซอยวิ่งไป บขส. ตรงข้ามโรงแรมสุภัค หรือติดต่อสอบถามเส้นทางหรือสอบถามสินค้าได้ที่ พี่ป๋องเจ้าของร้านมายรูมได้ที่เบอร์ 085-6931234

ลองจนสะใจ

สุดท้ายภรรยาผมก็ได้มา 2 ชุด พันกว่าบาท ราคาก็ประมาณนี้ ตามเนื้อผ้า  ถ้าจะให้คุ้ม จะต้องมีลูก 2 คนขึ้นไป จริงไหมครับ….ฮ่า ฮ่า

กระเป๋า+รองเท้าสวยๆก็มีนะ

ตะไคร้ ผลผลิตจากหลังบ้าน สู่ตำเมี่ยงนาคู

สวนตะไคร้ หลังบ้าน

สวนตะไคร้ หลังบ้าน

หลังจากปลูกตะไคร้ทิ้งไว้ในที่ว่างๆหลังบ้าน เผลอแลพบเดียว โตเกือบจะท่วมหัว รูปบนนี่เพิ่งเริ่มปลูกนะครับ ทิ้งไว้กว่า 6 เดือน ไม่ค่อยได้รดน้ำเท่าไหร่ แต่ผลก็ออกมาน่าพอใจ ขายเป็นเงินได้กอละเกือบ 20 บาท ท่นใดพอมีที่ว่าง ก็แนะนำเอาตะไคร้มาปลูกทิ้งไว้ก็ได้นะครับ หญ้าก็ไม่เกิด 

 

วันนี้ก็เลยขอแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการปลูกตะไคร้ของคุณวิศิษฐ์จากบ้านสวนพอเพียงดอทคอมมาฝากกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรมือใหม่ครับผม

วิธีการปลูกมีดังนี้ครับ…

1.แบ่งต้นตะไคร้ออกจากกอเดิมตามจำนวนที่จะนำมาปลูก


  ให้มีรากติดอยู่บ้างนะครับ..

2.แบ่งออกจากกันเป็นต้น ๆ แล้วตัดใบทิ้ง

3.ข้อนี้สำคัญ ลอกกาบสีดำหรือน้ำตาลแก่ ๆ ออกให้หมด เพราะจะทำให้ตะไคร้ไม่ยอมแตกกอครับ

4.ขุดหลุมผมใช้ เสียม สับ งัด เอาต้นตะไคร้ใส่ลงในหลุม แล้วก็เหยีบให้แน่น ๆ เสร็จ ครับ

  
ไม่ต้องขุดหลุมลึกนะครับ  แค่ให้ต้นตะไคร้อยู่ได้ก็พอ..ใส่ต้นตะไค้สัก 2-3 ต้นต่อ 1 หลุมครับ


เหยียบให้แน่น ก็เสร็จครับ


ตะไคร้ที่คันนาปลูก มา 3 เดือนครับกอใหญ่มาก ๆ ที่สวนและนาข้าวก็ใช้วิธีนี้ทั้งนั้นครับ
 

การปลูกตระไคร้ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นที่เกิดจากการแยกหน่อ ให้ตัดต้นออกจากนั้นจะเหลือแต่ตอที่มีหน่ออ่อนๆออกอยู่สองข้าง ซึ่งตอดังกล่าว สามารถนำไปปลูกและได้ผลผลิตดีเท่าๆกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ต้นติดไปกับตอก็ได้ ต้นตระไคร้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ประกอบอาหารอื่นๆได้อีก สำหรับการปลูกนั้นก็ใช้วิธีการง่ายๆ ส่วนใหญ่จะปลูกในฤดูฝน โดย
– ขุดหลุมลึกประมาณ 1 จอบ กว้างประมาณ 1 ฟุต พรวนดินผสมกับปุ๋ยคอกในหลุมใช้ปุ๋ยคอก 1 ถ้วย จากนั้นรดน้ำให้พอชุ่ม – นำต้นตอที่ได้ลงปลูกชำในหลุม ใน 1 หลุมสามารถปลูกได้ 3-4 ต้น ดูแลตามธรรมชาติเนื่องจากตระไคร้ไม่มีแมลงศัตรูชนิดใดมารบกวนสามารปลูกได้ทุกที่ในดินทุกสภาพ 
– ระยะเวลาในการดูแล 3 เดือนจะเริ่มแตกกอใหญ่ ต้นตระไคร้จะโตอย่างเต็มที่ ให้ตัดตอนใบตระไคร้ทิ้งออก เพื่อให้อาหารในดินไปเลี้ยงลำต้นตระไคร้ให้มากที่สุด ช่วยให้ต้นตระไคร้ใหญ่ขึ้น น้ำหนักดีเป็นที่ต้องการของตลาด

– จากนั้นดูแลให้น้ำเมื่อดินแห้ง จนกระทั่งครบ 4 เดือนต้นตระไคร้จะเรียกได้ว่าเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ให้เกษตรกรสามารถตัดขายให้กับร้านตำเมี่ยงได้แล้วครับ ราคาตะไคร้สดตัดใบที่นาคู ยืนพื้นที่ ก.ก.ละ 7บาท ช่วงหน้าหนาว ก.ก.10บาท แล้วแต่ฤดูกาลครับผม

 

ผึ้งหลวง ส สิงห์อยู่ vs เอเจ บานัล มันส์พ่ะย่ะค่ะ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมตั้งใจว่าจะดูมวยชิงแชมป์โลกสถาบันใหญ่ WBO ของผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ ซึ่งปากกาเซียนหลายท่านลงความเห็นว่าคงได้แค่ชิง คงแพ้น๊อกกลับมา เพราะดูจากฟอร์มที่ผ่านมา ผึ้งหลวงก็เอาชนะแต่มวยส้วมจากฟิลิปปินส์ ฟอร์มไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย

 

แต่วันนี้เขาพิสูจน์ให้โลกได้รู้ว่า ความอึด ลูกตื้อ ลูกหนัก ความอดทน ก็สามารถแย่งแชมป์โลกได้เหมือนกัน

 

แต่ประเด็นต่อไปคือการป้องกันแชมป์ซึ่งยากกว่าการชิงมาก ถ้าเจอมวยจากญี่ปุ่นที่เบสิคดี ฟุตเวิคร์เยี่ยม เข้า-ออกเร็ว ผึ้งหลวงจะทำยังไง 

 

เป็นกำลังใจและเอาใจช่วยแชมป์โลกคนที่ 46 ของเมืองไทยครับ ผึ้งหลวง ส สิงห์อยู่

เทคนิค ยิงพิกัดหลังคาเรือนง่ายๆ ไม่ต้องออกไปตากแดดให้แผดเผา

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำเสนอวิธีการยิงพิกัดหลังคาเรือน(GIS) โดยไม่ต้องใช้เครื่องยิงพิกัดให้วุ่นวาย แต่ต้องงงๆกับการจดตัวเลขนิดหน่อย เพียงแค่รู้ตำแหน่งบ้านหลังนั้นจริงๆ ท่านก็สามารถยิงพิกัดGISได้แล้ว

โดยเรื่องก็มีอยู่ว่า ที่รพ.สต.นาคู(ที่ผมทำงานอยู่) มีเขตพื้นที่รับผิดชอบตั้ง 14 หมู่บ้าน ประชากรเพิ่มขึ้น หลังคาเรือนก็เพิ่มตาม มาขอใบรับรองส้วมเพื่อออกบ้านเลขที่ใหม่กันอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนก็ขยายออกสู่ท้องไร่ท้องนา ถนนตัดใหม่ ไฟฟ้าก็เข้าถึง ไอ้เราจะถือเครื่องยิงพิกัดออกไปยิงพิกัดบ้านหลังใหม่ ก็ไกลไปนิดส์นึง เลยต้องพึ่ง pointasia เพื่อให้ง่ายต่อการเคลียร์ ภาพค่อนข้างชัด ผิดกับ googlemap ที่ค่อนข้างเบลอ เพราะอยู่บ้านนอก googlemapไม่ค่อยสนใจจะถ่ายภาพแผนที่อัพเดทสักเท่าไหร่

พิกัดหลังคาเรือนโดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 แบบ คือ latitude longtitude(แกน x แกน y) ซึ่งระบบนี้จะใช้ใน googlemap,pointasia และอีกระบบหนึ่งคือ UTM โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์จะใช้ระบบพิกัดหลังคาเรือนแบบ UTM

ปัญหามันก็เลยอยู่ที่ว่า ผมจะใช้pointasiaในการระบุตำแหน่งบ้านเพราะเป็นโปรแกรมที่เห็นหมู่บ้านผมชัดที่สุด แต่หน่วยที่ pointasiaใช้คือlatitude longtitude แล้วจะทำยังไงให้ได้พิกัดหลังคาเรือนจาก latitude longtitude(แกน x แกน y)เปลี่ยนไปเป็นที่เป็นระบบ UTM ฟังดูแล้วงงๆ ฮ่าๆ ไม้่เป็นไรครับ มาถูกทางแล้วครับ

1.เข้าเว็บ pointasia ให้ได้ก่อน

เข้าเว็บ pointasia

 

 

 2.โหลดโปรแกรมมาติดตั้งบนเครื่องเรา

โหลดโปรแกรมมาลงเครื่องก่อน

โหลดโปรแกรมมาลงเครื่องก่อน

 

โหลดโปรแกรมมาลงเครื่องก่อน

โหลดโปรแกรมมาลงเครื่องก่อน

 

3.ติดตั้งแล้วจะได้ไอคอนนี้

icon pointasia

icon pointasia

 

4.เข้า pointasia ต้อง registerก่อน กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปให้ครบครับผม

ต้องสมัครสมาชิกก่อน

ต้องสมัครสมาชิกก่อน

 

5.ดับเบิ้ลคลิกเข้าโปรแกรมมาแล้ว ให้เอาเม้าส์มาวางแถวมุมล่างซ้ายใกล้เข็มทิศนี้แล้วเลือกแว่นขยาย ใส่ชื่อหมู่บ้านที่เราจะหาพิกัด แล้วกดค้นหา หรือจะคลิกขวาแล้วเลือก search แล้วค่อยใส่ข้อมูลก็ได้

เข้าโปรแกรมมาแล้ว

เข้าโปรแกรมมาแล้ว

 

 

6.ภาพที่ได้ค่อนข้างชัดทีเดียว เห็นสีหลังคาบ้านเลยแหละ แต่ googlemap จะเบลอเอามากๆ ก็เลยเลือกใช้ pointasia

เห็นหลังคาบ้านตัวเองเลยครับ

เห็นหลังคาบ้านตัวเองเลยครับ

7.จะเอาพิกัดบ้านหลังไหน ก็เอาเม้าส์ไปวางที่หลังคาบ้านแล้วเราจะได้พิกัดแบบ latitude longtitude ที่มุมขวาบน แล้วก็จดไว้ครับ

 

เอาเม้าส์ไปวางไว้หลังคาบ้าน แล้วจะได้พิกัดที่มุมขวาบน

เอาเม้าส์ไปวางไว้หลังคาบ้าน แล้วจะได้พิกัดที่มุมขวาบน

8.ไปที่เว็บไซต์ http://home.hiwaay.net/~taylorc/toolbox/geography/geoutm.html แล้วเอาค่า  latitude longtitudeที่ได้จากมุมขวาบนไปใส่ช่องว่างดังรูป  แล้วกดที่ปุ่ม >>  เว็บไซต์ก็จะแสดงค่าพิกัด X,Y ออกมาครับ 

9.หากเราต้องการแปลงรหัส จาก UTM(พิกัด X,Y) ไปเป็นรหัส  latitude longtitude เพื่อใช้กับ Google Map   ก็ให้กรอกค่าพิกัดในช่อง X,Y   สำหรับเลข zone ประเทศไทยให้ใช้เป็น 48   และ hemisphere จะเป็น   N  แล้วกดที่ปุ่ม   <<    เว็บไซต์ดังกล่าวก็จะแสดงค่า Geographic ออกมาตามรูป

ที่ผมเลือกใช้ pointasiaนี่ก็เพราะมันชัดดี ชัดมากๆด้วย นี่อาจจะไม่ใช่วิธีที่ง่ายหรือดีที่สุด แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของท่านเอง หวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับ 

 

ขอขอบคุณข้อมูลพร้อมรูปภาพจาก รพ.สต.แกเปะ จ.กาฬสินธุ์ด้วยครับ

 

PA Mobile(พีเอ โมบาย) ร้านขายมือถือในนาคู

PA Mobile(พีเอ โมบาย) ร้านขายมือถือในนาคู

โทรศัพท์มือถือ เป็นปัจจัยที่ 5 ที่คนในยุคสมัยนี้จำต้องมี ซึ่งต่างจากสมัยก่อนเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ที่โทรศัพท์บ้านยังไม่มี เครื่องมือถือก็มีขนาดใหญ่มากมาย ยากต่อการพกพา แต่ในนาคูสมัยก่อน มีคนที่เอาเสาโทรศัพท์มาลง(บ้านเจ๊ปุ๋ย) แล้วโทร.ผ่านเครือข่ายดังกล่าวแล้วคิดค่าบริการตามระยะเวลาในการสนทนา พอมีคนรู้จักหรือญาติโทร.จากทางไกลมา ก็ต้องวิ่งไปตามมารับโดยให้โทร.กลับมาอีกรอบ กว่าจะได้คุยกันมันช่างแสนยากเย็น

 

แต่ในทุกวันนี้เพียงแค่มีเครื่องกับซิมก็สามารถคุยกับใครก็ได้ทั่วโลก เทคโนโลยีมันช่วยอำนวยความสะดวกเราจริงๆ ใครจะไปคิดว่าเราวจะมีมือถือเป็นของตัวเอง ว่ามั๊ยครับ

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกปี ความต้องการใช้โทรศัพท์มือถือก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้กิจการขายโทรศัพท์มือถือเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

ไม่ว่าจะเป็นการบริการเติมเงินแบบออนไลน์ จ่ายตังค์ปุ๊บ เติมงินเข้าเครื่องปั๊บ สะดวกจริงๆ

บริการขายเครื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ อัพเดททุกเดือน ราคาที่ย่อมเยาต่อรองได้  พร้อมบริการซิม+เบอร์สวยๆ+โปรต่างๆให้เลือกมากมาย

บริการซ่อมเครื่องที่มีปัญหา

บริการขายเครื่องมือ 2 ราคาถูก

ขายอุปกรณ์เสริม+ตกแต่ง ชุดแฮนด์ฟรี บลูธูธ ฯลฯ

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

PA Mobile ร้านขายโทรศัพท์มือถือในนาคู

ซึ่งบริการทั้งหลายเหล่านี้ท่านสามารถใช้บริการได้ที่ ร้าน PA Mobile ศูนย์จำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือ ใจกลางบ้านนาคู ตรงข้ามซอยเข้าบ้านผู้ใหญ่บุญทัย ม.1 หน้าร้านมีที่จอดรถสะดวกสบาย มีเจ้าของร้านคือพี่เอพร้อมแฟนสาวคอยให้บริการทุกท่าน ติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ที่ 080-7528409(พี่เอ)

 

ร้านขายและซ่อมคอมพิวเตอร์ Powerline นาคู

คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จำำเป็นในชีวิตของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค คอมตั้งโต๊ะ แท๊ปเล็ต ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ทางด้าน IT ที่หลายคนสามารถนำมันมาทำเงินสร้างรายได้ให้ตนเอง  หรือเอาไว้เชื่อมต่อ social network เม้นเฟสบุ๊คกับเพื่อนๆ

 

การใช้งานคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ผ่านไปแต่ละปีๆ ย่อมจะมีความเสื่อมของของอุปกรณ์เกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสรับประทาน แรมพัง เมนบอร์ดเสีย ฮาร์ดิสเจ๊ง วินโดวเน่า สายไฟโดนหนูกัด คอมช้า ตกรุ่น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ผมก็เจอะเจอมากับตัวเองบ่อยครั้ง ซึ่งก็ต้องวุ่นวายแบกเครื่องไปหาช่างไกลๆ เพราะแต่ก่อน ในนาคูยังไม่ค่อยจะมีช่างคอมสักเท่าไหร่

 

แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อเรามีช่างคอมใกล้บ้านเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการดูแล ซ่อมบำรุงพร้อมทั้งอัพเกรดคอมพิวเตอร์ให้กับทุกท่าน ด้วยประสบการณ์การทำงานนับสิบกว่าปี จับคอมมาเป็นร้อยๆพันๆเครื่อง ท่านสามารถขอคำปรึกษาหรือให้ช่างผู้มีความชำนาญคอยดูแลคอมพิวเตอร์เครื่องโปรดของท่าน นั่นคือร้าน Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

ร้าน Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบ ยกเซ็ต พร้อมเล่นเฟสบุคได้ทันทีที่มีอินเตอร์เน็ต ซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ แก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส เครื่องช้า จอฟ้า สารพัด หรือจะอัพเกรดคอมพิวเตอร์ทางร้านก็มีอุปกรณ์แยกชิ้นให้ท่านนำไปใส่คอมเพิ่มความแรง ความเร็วให้พุ่งปรี๊ดได้อย่างสะใจ สามารถโทร.ติดต่อสอบถามปัญหาคอมได้ที่ 080-5563375

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

Powerline (พาวเวอร์ไลน์) นาคู จำหน่าย+รับซ่อมคอมพิวเตอร์

ระหว่างรอสามารถสั่งอาหาร+เครื่องดื่มเย็นๆได้ด้วยนะจ๊ะ.

โชว์จระเข้ วิวัฒนาการ การแสดงโชว์ที่เปลี่ยนไปในวิถีชนบท

“เชิญพ่อแม่ พี่น้อง ลูกๆ หลานๆ มาพบการโชว์จระเข้ ตัวใหญ่ๆ ที่วัดนาคูใต้นะครับ เริ่มเวลา 1 ทุ่มครึ่งเป็นต้นไป ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 เด็ก 20 เท่านั้น เชิญนะครับ”……เสียงโฆษณาที่มากับเพลงเเดนซ์จากต่างประเทศสุดเร้าใจ ส่งผ่านออกไปยังทอระโข่งตัวเล็กที่ติดอยู่บนรถกระบะที่มีป้ายโฆษณารูปจระเข้กับคนที่กำลังกอดกัน สามารถดึงดูดความสนใจกับผู้ที่พบเห็นและได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี

 

แล้วมีรึที่เราจะพลาด…แม้ว่าในใจก็บอกกับตัวเองว่า มันหมดยุคของเราไปแล้ว….เฒ่าแล้ว(เพราะมีแต่เด็กๆที่ดูจะตื่นเต้น) สืบเนื่องมาจากสมัยก่อนนู้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มักจะมีการแสดงโชว์ล้อมผ้าเก็บค่าเข้าดูในรูปแบบต่างๆที่ทยอยแวะัเวียนเข้ามาทำให้หัวใจดวงน้อยๆของเด็กๆในบ้านนาคูได้พองโตอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงกระผมด้วย ฮาๆๆๆ

 

หลายท่านคงจะนึกถึงวิถีชีวิตในชนบทเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่จะมีพวกหนังขายยา มาฉายหนังไป ขายยาหม่องถ้วยทองไป บ้างก็ขายยาถ่ายพยาธิ แล้วรับซื้อตัวพยาธิคืนด้วย แต่มันก็ไม่เคยมารับซื้อคืนในตอนเช้า(มันขี้ตั๋วเหมือนในหนังเรณู 2 เลย เป็นกลยุทธในการขายสินค้าเท่านั้น) พวกฉายหนังมาฉายที่วัดนาคูเหนือแต่ละทีพวกผมและเพื่อนๆก็ไม่เคยพลาด แม้จะโดนแม่ด่าว่ากลับบ้านดึกทุกครั้ง …..ก็เพราะท่านเป็นห่วง

 

แต่กาลเวลาที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ร้านเช่า วีซีดีเกิดเป็นดอกเห็ด อยากดูหนังเปิดเน็ตดูก็ได้ ทำให้กิจการหนังขายยาค่อยๆซบเซาและตายไปในที่สุด

 

ในยุคที่ไล่เลี่ยกันต่อมา การแสดงของสัตว์ต่างๆก็ได้รับความสนใจไม่น้อย เช่น การแสดงของช้างแสนรู้ การแสดงงูตัวใหญ่ๆ ที่คอยมาแวะเวียนให้เด็กได้พาผู้ปกครองมาดู มาชม ซึ่งดูเด็กๆจะตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจกับสิ่งที่พบเห็น เพราะไม่เคยได้เคยสัตว์พวกนี้บ่อยนัก บางคนก็ได้เข้าไปร่วมแสดงเป็นส่วนหนึ่ง ก้จะได้รับความประทับใจ และความทรงจำที่ลืมได้ยากจากกิจกรรมเหล่านั้น

 

ล่าสุดคือ การโชว์จระเข้จากลุ่มน้ำอะเมซอน(ตรงไหนอะ ก็ไอ้เข้บ้านเรานี่แหละ) พูดถึง “จระเข้” เด็กๆหลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นตัวเป็น อย่างมากก็ดูจากรูป ทีวี และอินเตอร์เน็ต แต่วันนี้เด็กน้อยบ้านนาคูยอมเสียตังค่าขนม 20 บาท เพื่อให้ได้มีโอกาสสัมผัสกับตัวจระเข้น้อยตัวเป็น พร้อมกับการแสดงโชว์จากทีมงาน “บ่อมงคล” ซึ่งการแสดงโชว์แม้จะไม่ได้ตื่นเต้นหรือแตกต่างไปจากการโชว์ของบ่อจระเข้ใหญ่ๆตามสวนสัตว์ แต่มันก็คุ้มค่ากับเงิน 20 บาท ที่เด็กยินดีจะเเคะกระปุกออมสินเพื่อเปิดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น เร้าใจ และประทับใจในการโชว์ครั้งนี้

เก็บค่าเข้าชม เด็ก 20 ผู้ใหญ่ 30

เก็บค่าเข้าชม เด็ก 20 ผู้ใหญ่ 30

โชว์จระเข้ ณ วัดนาคูใต้

โชว์จระเข้ ณ วัดนาคูใต้

หมอเข้ม เอาหัวยัดปากน้องเข้

หมอเข้ม เอาหัวยัดปากน้องเข้

หมอเป้ดล้วงคอ จระเข้

หมอเป้ดล้วงคอ จระเข้

แววตานี้บอกว่า เมื่อไหร่จะแสดงซะที รอนานจนรมเสียแล้วนะ

แววตานี้บอกว่า เมื่อไหร่จะแสดงซะที รอนานจนรมเสียแล้วนะ

ผมแอบมองแววตา สีหน้าท่าทาง และก็คำพูดจาของเด็กๆที่คุยกับเพื่อนๆ ก็อดจะหวนคิดถึงตัวเองในตอนที่อายุประมาณนี้ไม่ได้ มันเป็นอะไรที่สนุก ตื่นเต้น ทำให้มีเรื่องเล่าไปอวดเพื่อนๆในตอนเช้าที่ไปโรงเรียน คนไหนไม่ได้ไปดูโชว์ก็จะเงียบ ไม่รู้จะคุยอะไรกับเพื่อน ก้มหน้าเขี่ยดินแก้เขินไปเรื่อย ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยอยากจะมีเลยในวัยเด็ก.

 

 

 

 

ตร.สอบ’โย่ง’พยานคนใหม่พาชี้จุดหมอสุพัฒน์ซ้อมในไร่

409515

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผย นำตัว “โย่ง” ชาวพม่า ไปชี้จุดเกิดเหตุที่ถูกทำร้ายในไร่ “หมอสุพัฒน์” ประกอบสำนวนคดี เตรียมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายเพิ่ม หลังผลดีเอ็นเอออก

พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7  เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันนี้ ทางพนักงานสอบสวนในคดี 2 สามีภรรยา จ.เพชรบุรี หายสาบสูญไป เมื่อ 3 ปีก่อน ได้ยุติการขุดหาศพในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว แต่ได้นำตัว นายโย่ง หรือ นายตอแงเล ชาวพม่า ไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ทำร้ายจนสลบ ในไร่ที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ออกมาแล้ว ว่า โครงกระดูก 1 ใน 3 ร่าง เป็นของนายต้า คนงานชาวพม่านั้น ทางพนักงานสอบสวนจะประชุมกันอีกครั้ง แจ้งข้อหาเพื่มเติมแก่ผู้ต้องหา ส่วนจะแจ้งทั้ง 2 คนเลยหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง

ส่วนการที่บุตรชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปร้องให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีนั้น ก็ทำได้ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการมา

 

ผลDNAศพเป็นพม่าพบพยานเห็นอุ้มหนีซุกเมืองปากน้ำ

พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยผลการตรวจดีเอ็นเอโครงกระดูก ที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีการหายตัวไปของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย อายุ 27 ปี ลูกชาย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา ที่ส่งไปตรวจยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากได้หลักฐานเพิ่มจาก นายกะลา อดีตคนงานในไร่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ว่าศพที่ 2 ที่ใส่เสื้อมีเลข 20 คือ นายอิต้า เป็นผู้ที่ฝังเอง โดย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นคนยิง จึงติดต่อภรรยาที่หนีไปอยู่พม่าเพื่อติดต่อญาตินำ ดีเอ็นเอ มาตรวจ พบว่าตรงกัน ส่วนอีกศพอื่นๆ ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนศพที่มีรอยกระสุนที่ศีรษะนั้น นายกะลา ไม่ทราบเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นการฆาตกรรมแน่นอน จึงต้องสืบต่อไปว่าเป็นศพใคร ส่วนจะขุดค้นศพในไร่เพิ่มหรือไม่ คงต้องหาข่าวเพิ่มเติมก่อน

ทั้งนี้ ยังพบพยานอีกราย เป็นคนงานชาวพม่า ซึ่งเป็นเพื่อนกับ นายอิต้า ที่ถูกฆ่าและฝังในไร่ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขณะอุ้มสองสามีภรรยา เพียงแต่ไม่เห็นตอนฝัง โดยพยานรายนี้ยังมีความกลัว จึงหลบหนีไปอยู่ใน จ.สมุทรปราการ โดยได้เบาะแสจากสืบการติดตามอดีตคนงานชาวพม่าในไร่ โดยยังมีพยานอีกหลายรายที่อยู่ในไทยและพม่า ซึ่งจะต้องนำมาสอบปากคำต่อไป

 

ลูกชาย “หมอสุพัฒน์” ร้อง ผบ.ตร. เปลี่ยน พงส.

นายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชาย พันตำรวจเอกนายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา ชาวจังหวัดเพชรบุรี เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึง พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 , ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรท่าไม้รวก เนื่องจาก มีการกระทำเกินกว่าเหตุหลายอย่าง ทั้งการรีบร้อนออกหมายจับ โดยไม่เคยมีการออกหมายเรียก รวมทั้ง มีความพยายามเชื่อมโยงไปยังข้อหาฆ่าคนตาย ทั้งที่มีเพียงคำซัดทอดจากพยานเพียง 1 ปาก โดยยังไม่มีหลักฐานใดชี้ชัด นอกจากนี้ ยังไม่เปิดโอกาสให้บิดาของตนเองเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่กลับมีการจับกุมโดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทำให้ตนเองและบิดา สงสัยในการใช้อำนาจหน้าที่ของชุดสืบสวนสอบสวนทั้งหมด จึงขอให้พิจารณาเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนใหม่ และขอให้เรียกตนเอง ผู้กล่าวหา และพยานทุกปากที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ไปสอบสวนให้ครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อตนเองและบิดาต่อไป

 

นิติเวชจุฬาฯยันโครงกระดูกไม่ใช่2สามีภรรยา

ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้านิติพันธุศาสตร์และหน่วยวิชาการ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.จุฬาลงกรณ์  แถลงผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และเอกลักษณ์บุคคล เปรียบเทียบโครงกระดูก 3 โครง ที่พบในไร่สับปะรด ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหา คดีการหายตัวไปของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย  และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยา ชาว จ.เพชรบุรี โดยระบุว่า จากการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ทั้ง 3 โครง พบเป็นโครงกระดูกเพศชายทั้งหมด โดยตรวจพบรูกระสุนปืน เข้าบริเวณกระโหลกศีรษะ จำนวน 2 โครง ส่วนโครงกระดูกอีก 1 โครง ไม่พบรอยกระสุน ส่วนผลการตรวจสารพันธุกรรม หรือ DNA ยืนยันได้ว่า โครงกระดูก 1 ราย คือ นายต้า หรือ ตั้ง ชาวพม่า ซึ่งเป็นบิดาของเด็กชายโซโหร่ยโหร่ย ชาวพม่า  และเป็นบุตรชายของ นายปิเอ่ ชาวพม่า ส่วนผลการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับ นางเล็ก เฮ็งสุวรรณ มารดาของนายสามารถ นางเอื้อน เกิดทรัพย์ มารดาของนางอรษา และนายเอกพจน์ จันทร์ลาด ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และบิดาหายตัวไป ผลปรากฏว่า ดีเอ็นที่ตรวจได้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมกันกับทั้ง 3 คน แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับโครงกระดูกอีก 2 โครง ที่ยังยืนยันไม่ได้ ทางแพทย์ ได้เก็บดีเอ็นเอ บริเวณฟันและเนื้อเยื่อบริเวณกระพุ้งแก้ม ไว้ตรวจเปรียบเทียบแล้ว ส่วนผลการตรวจทั้งหมดจะรายงานให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป

 

ลูกหมอสุพัฒน์ยื่นกมธ.ตร.สภาเปลี่ยนพนง.สส.

นายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้บิดา ที่ไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ พร้อมทั้งให้สอบสวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่มีความเป็นกลาง และร้องขอให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนทั้งหมด เพื่อความเป็นธรรม

ทั้งนี้ นายสมชาย ระบุว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ในวันพุธที่ 17 ต.ค. เวลา 13.30 น.
เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาชี้แจง

ขอบคุณข้อมูลจาก innnews.co.th