มาสด้า ฟุ้ง..ยอดขาย 7 เดือน ทะลุ 7 พันคัน

 

       มาสด้า เผยตัวเลขยอดขายรถที่กำลังพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาได้ทำสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายทะลุ 7,000 คันเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะรถเก๋งเล็กอย่างมาสด้า 2 ที่กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว ด้วยยอดขายสูงสุดถึง 3,340 คัน ส่วนที่กำลังมาแรงนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ รถปิกอัพสไตล์เก๋งมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ที่กวาดยอดขายเกือบ 3,000 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 273%

       นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงของโลซีซัน แต่รถยนต์มาสด้ากลับได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งสปอร์ตน้องใหม่อย่างมาสด้า 2 สปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ซีดาน 4 ประตู ที่ยังคงร้อนแรงมียอดขายรวมทั้ง 2 รุ่น มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 3,340 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 52% ในขณะที่รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 763 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14% ที่สำคัญ รถปิกอัพฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 273% มียอดขายจำนวนทั้งสิ้น 2,959 คัน ซึ่งเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่มาสด้าสามารถทำลายทุกสถิติของตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุดถึง 7,065 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของมาสด้าในประเทศไทย และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 93% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 
       
       ทั้งนี้ นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 130,766 คัน โดยมาสด้ามียอดขายสูงถึง 7,065 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในปีนี้ถึง 5.4% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 มีจำนวน 3,340 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 11% ของยอดขายในตลาดบีคาร์โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 31,167 คัน และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จำนวน 2,959 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเช่นเดียวกัน 5.7% จากยอดรวมของตลาดปิกอัพอยู่ที่ 52,085 คัน และรถยนต์นั่งมาสด้า 3 จำนวน 763 คัน สามารถครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 6.1% จากยอดขายรวมของตลาดซีคาร์อยู่ที่ 12,561 คัน

       “นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 730,187 คัน และในจำนวนนี้เป็นยอดขายของรถยนต์มาสด้าสูงถึง 37,642 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 5.2% โดยแบ่งออกเป็นตลาดบีคาร์เซกเมนต์จำนวน 158,825 และเป็นยอดขายรถยนต์นั่งมาสด้า 2 สูงถึง 21,404 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 13.5% และในตลาดรถปิกอัพมียอดรวมอยู่ที่ 325,707 คัน และเป็นยอดขายของมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ สูงถึง 13,144 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงสุดถึง 5.7% และในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมียอดรวมอยู่ที่ 59,179 คัน และเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า 3 จำนวน 3,106 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5.2%” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
       
       “การที่เราสามารถทำสถิติยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 3,000 คัน มาจนถึง 7,000 คัน ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ของมาสด้า นอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแล้ว การบริการหลังขายเป็นสิ่งสำคัญที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการขยายเครือข่ายของศูนย์บริการทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ต้องเป็นเลิศ และเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า” 

       ทางด้านแม่ทัพการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า หลังการเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม และถือเป็นรถปิกอัพยุคใหม่ที่มาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ ส่งผลให้รถปิกอัพมาสด้าบีที-50 ได้รับกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการผนึกรวม 2 พลังสายพันธุ์สปอร์ต มาสด้า3 ใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เสริมทัพเข้าสู่ตลาดทั้งแฮชต์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู ชูความโดดเด่นด้านดีไซน์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเหนือระดับและให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด พร้อมทั้งการปรับโฉมรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ด้วยการเพิ่มออฟชั่นเบสต์อินคลาสและใส่อุปกรณ์มาตรฐานหลายรายการเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าทั้ง 3 รุ่น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก manager.co.th

ชาว ต.อิตื้อ ผวาผีปอบ ชาวบ้าน2พันคนร่วมนิมนต์พระ-พ่อขะจ้ำ ทำพิธีไล่วิญญาณ

ที่บ้านดอนขี – ดอนสวรรค์  หมู่ที่  5 และ 6 ต.อิตื้อ  อ.ยางตลาด  จังหวัดกาฬสินธุ์  ประชาชนกว่า 2,000 คน  นำโดยนายอดุลย์  จันทะพิลา  ผู้ใหญ่บ้านดอนขี  หมู่ที่ 5  พ่อทองสุข  นนทะนำ  พ่อขะจ้ำหมู่บ้าน  และนางกาญจนา  ภูชมศรี  รองนายกเทศบาลตำบลอิตื้อ  นิมนต์พระอาจารย์ธานินทร์  อนตธฺโร  เกจิที่มีชื่อเสียงด้านพิธีกรรมพื้นถิ่นอีสาน เดินทางมากำจัดปอบในพื้นที่หลังประชาชนอยู่ในอาการผวาอย่างหนักเนื่องจากมีคนตายแบบกะทันหันเรียงกันวันละศพ

พิธีเริ่มต้นขึ้นจากการบวงสรวง ขอขมาและบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน  ก่อนที่จะปลุกเสก เซียงข้อง ออกไล่จับปอบในหมู่บ้าน  มีอาสาสมัครชาวบ้านร่วมพิธีกรรมจนสามารถจับปอบใส่ในกระบอกไม้ไผ่ได้ถึง 6 ตัว  จากนั้นเจ้าพิธีได้ทำพิธีส่งวิญญาณที่จับได้ที่บรรจุในกระบอกไม้ไผ่  ด้วยวิธีฌาปนกิจตามประเพณี  ด้วยความเชื่อว่าดวงวิญญาณที่เป็นผีปอบนั้นไม่ไปสู่สุขคติจึงต้องหาตัวตายตัวแทนรับช่วงต่อจนเป็นสาเหตุให้มีคนเสียชีวิต

 

นางกาญจนา  ภูชมศรี  นายกเทศบาลตำบลอิตื้อ  อ.ยางตลาด  จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่  1 สิงหาคม จนถึงวันที่5สิงหาคมทั้งบ้านดอนขี และบ้านดอนสวรรค์หมู่ที่ 5 และ 6 มีผู้เสียชีวิตแบบกะทันหันทั้งที่เป็นคนแก่สูงอายุมีโรคประจำตัวและคนหนุ่มรวมแล้ว 5 ราย การเสียชีวิตเรียงกันวันละ 1 คน  ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นสาเหตุให้คนในหมู่บ้านผวากันอย่างหนักและมั่นใจว่าเป็นฝีมือของผีปอบ

 

พ่อทองสุข  นนทะนำ  อายุ  73  ปี  พ่อขะจ้ำ      ระบุว่า  ก่อนหน้านั้นหมู่บ้านข้างเคียงมีคนตายเรียงกัน  3 ศพ  และเคลื่อนมาที่หมู่บ้านนี้ซึ่งอยู่ติดกัน  ลักษณะการตายเป็นไปอย่างกระทันหันเมื่อเช้าคุยกันดี ๆ พอตกบ่ายนอนหลับตายไปหรือช็อคตายไป  คนในหมู่บ้านจึงอยู่ไม่เป็นสุขเพราะหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงปรึกษาหารือและทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านเพื่อเสี่ยงทายก่อนจะลงความเห็นว่าเป็นฝีมือของผีปอบ ทั้งหมดเป็นความเชื่อของคนในหมู่บ้านที่ถือปฏิบัติมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

สิ่งที่ทุกท่านได้เห็นได้อ่านนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว (ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่เด้อคับพี่น้อง)

ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์

น้ำตกตาดบง น้ำตกสวยแห่งใหม่ในนาคู พร้อมปรากฏสู่ทุกสายตา

น้ำตกตาดบง น้ำตกสวยแห่งใหม่ในนาคู พร้อมปรากฏสู่ทุกสายตา
น้ำตกตาดบง เป็นน้ำตกที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวและพัฒนาเส้นทางเดินเท้าเมื่อต้นปี 2555 ดูแลโดย อบต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลครอบคลุมถึง 3 น้ำตกด้วยกันคือ น้ำตกผานางนางคอย น้ำตกคำเตย และล่าสุดคือ น้ำตกตาดบง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาภูพาน อยู่ตรงเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน ห่างจาก บ.หว้านพัฒนา ประมาณ 5 กม.

การเดินทางเป็นทางลูกรัง+หิน+หลุม ตลอดเส้นทาง สามารถเข้าถึงได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ถ้าต้องการมาเยี่ยมชมก็ถามชาวบ้านแถวนั้นว่าไปวัดถ้ำช้างไปทางไหน เจอทางขึ้นวัดปุ๊บเดิอนต่อไปอีก 300 เมตรก็จะถึงตัวน้ำตก  

ที่ชื่อน้ำตกตาดบง เพราะบริเวณน้ำตกมีกอไผ่บง(ชื่อไผ่ชนิดหนึ่ง)อยู่เป็นจำนวนมาก และลำห้วยที่เป็นสายน้ำของน้ำตกก็ชื่อห้วยบงเช่นเดียวกัน

น้ำตกนี้ถูกค้นพบมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งได้รับการพัฒนาเมื่อต้นปี 2555 ควรมาเที่ยวช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ของทุกปี เพราะน้ำจะมีเยอะในช่วงนี้

ตาดบงเป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ มีความสูงประมาณ 7 เมตร มีหน้าผาที่เป็นก้อนหินก้อนเดียวที่ใหญ่มากกว้าง*ยาวประมาณ 7*10 เมตร ถ้าเป็นช่วงน้ำหลากน้ำตกนี้สวยมากครับ น้ำพุ่งจากหน้าผาไปได้ไกลพอสมควร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เป็นน้ำตกในอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์อีกแห่งหนึ่

เชิญชวนทุกท่านเข้้ามาชมความสวยงามของน้ำตกได้นะครับ ติดต่อ อบต.บ่อแก้วได้ที่เบอร์ 043-840183 , 043-801071 ฝากนิดส์นึงนะครับ โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าเอาขยะไปทิ้งน้ำตก ถ้าเจอก็เก็บมาทิ้งขยะ จักขอบพระคุณยิ่งครับผม.

“พี่หมอคะ หนูขอประวัติน้ำตกผานางคอยหน่อยค่ะ”

“พี่หมอคะ หนูขอประวัติน้ำตกผานางคอยหน่อยค่ะ”นี่คงเป็นประโยคเพชรเลยก็ว่าได้ สำหรับ บล๊อกเกอร์มือใหม่หัดขับอย่างผม ทำให้เราได้รู้ว่า อย่างน้อยระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน มันทำให้เว็บเราเป็นที่รู้จักของเด็กประถมปลายได้ 555+ ภูมิใจโคตรๆ

nakhu.com น้ำตกผานางคอย

nakhu.com น้ำตกผานางคอย

ไม่ว่าน้องเขาจะรู้จักเว็บของผมผ่านการบ้านของอาจารย์ หรือความบังเอิญก็แล้วแต่ ยังไงมันเป็นความสำเร็จของก้าวเล็กๆที่เสริจเอ็นจิ้นอย่าง google จะนำพาเว็บน้อยๆของผม(Nakhu.com)ก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่(หวังว่าคงเป็นอย่างนั้น)ในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้มันก็ยังคงเป็นการบ้านที่ยากสำหรับผม ถึงอย่างไรเสีย เราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร สบายๆแบบเบิร์ดๆไปนี่แหละ หวังว่าผู้อ่านผ่านไป-มาทุกท่านจะคอยติดตามและให้กำลังใจนะครับ.

ตำรวจบุกยึดไม้พะยุง มูลค่า 100 ล้านบาท ที่โกดังสหกรณ์การเกษตรจำกัด นาคู กาฬสินธุ์

ตำรวจ บก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 16 หน่วยงาน เข้าตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 728 ท่อนคาโกดังสหกรณ์การเกษตร จำกัด จ.กาฬสินธุ์ ตร.เตรียมออกหมายเรียก “เสี่ยค้าไม้เก่า” สวมรอยเก็บไม้พะยูงไว้ในโกดังรอส่งลูกค้าทำทีตอกตะปูอำพรางเป็นไม้เก่าแต่ไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตามยึดของกลางทั้งหมดไว้ทัน!
       
       เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกับทหาร ตำรวจป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าที่ฝ่ายปกครอง 16 หน่วยงาน นำโดย พล.ต.ต.นรศักดิ์ เพชรศิริลักษณ์ ผกก.บก.ปทส., พ.ต.อ.ศิริพงษ์ เพชรศิริลักข์ ผกก.กก.3 บก.ปทส., พ.ต.ต.ภฤก ภาสว่าง สารวัตร กก.3 บก.ปทส.และ ร.ต.ต.สิรพัชร์ ปิยะชานนท์ รองสารวัตร กก.3 บก.ปทส. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 728 ท่อน ปริมาตร 26.56 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ภายในสหกรณ์การเกษตร จำกัด เลขที่ 105 ม.10 ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
       
       จากการสอบสวนพบว่า ไม้พะยูงดังกล่าวไม่มีการตีตราประทับไม้จากหน่วยงานราชการใดๆ เชื่อได้ว่าเป็นไม้พะยูงที่ถูกลับลอบตัดออกมาจากเขตพื้นที่ป่าไม้ภายใน จ.กาฬสินธุ์ แล้วนำมากองรวมเก็บไว้ภายในโกดังสหกรณ์การเกษตรแห่งนี้ ซึ่งมีนายอภิวัฒน์ เชื้อดี เป็นผู้เช่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอายัดไม้พะยูงทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ สภ.นาคู พร้อมกับออกหมายเรียกนายอภิวัฒน์มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า นายอภิวัฒน์ได้จดทะเบียนพาณิชย์เป็นผู้รับซื้อไม้เก่า ภายใต้ชื่อทางทะเบียนพาณิชย์ “ปูแดงค้าไม้” โดยมีพฤติการณ์ลักลอบนำไม้พะยูงที่ลักลอบตัดจากเขตพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ป่าสงวน พื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศมาเก็บไว้ในโกดังเพื่อรอการจัดส่งและจำหน่าย โดยมีการนำตะปูมาตอกตามท่อนไม้เพื่อเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่ว่าเป็นไม้เก่าที่ผ่านการรื้อถอนมาจากบ้านไม้เก่าที่รับซื้อมา

บุกยึดไม้พะยุงมูลค่ากว่า 100 ล้าน

บุกยึดไม้พะยุงมูลค่ากว่า 100 ล้าน

บุกยึดไม้พะยุงมูลค่ากว่า 100 ล้าน

บุกยึดไม้พะยุง 728 ท่อน

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  manager.co.th

นาฬิกาเรือนเก่า เศร้า เหงา ซึ้ง หลอน

พอดีได้ดูมิวสิควีดีโอ เพลงนาฬิกาเรือนเก่า ของปาล์มมี่แล้ว ได้รับความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์มาก

เอ็มวี ทำออกมาได้โดน มาก ๆ เลย ครับ ถึงความรู้สึกที่หยุดเดิน เมื่อต้องผิดหวังจากอะไรมาก ๆ ถึงแม้เวลาจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด แต่ความรู้สึกในหัวใจมันหยุดลงไ­ปเมื่อความหวังได้พังลง แต่ยังไง ก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคน­รัก ว่า

“จะดูแลและรักเธอตลอดไป”

 เพื่อนๆดูแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ

นาฬิกาเรือนเก่า ปาล์มมี่

นาฬิกาเรือนเก่า เศร้า เหงา ซึ้ง หลอน

ตรวจหาเบาหวาน ไม่จำเป็นต้องอดอาหารนะจ๊ะ จะบอกให้

การเจาะเลือดเก็บตัวอย่างในโปรแกรมตรวจสุขภาพส่วนใหญ่ มักให้ผู้ที่รับการตรวจงดอาหารก่อน 8-12 ชั่วโมง โดยผลเลือดส่วนหนึ่งจะบอกระดับน้ำตาลในเลือด ที่เป็นตัวบอกประสิทธิภาพของร่างกายในการดึงน้ำตาลในกระแสเลือดไปเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานเพื่อการดำรงชีวิต 

แต่หากประสิทธิภาพในการดึงน้ำตาลไปเก็บนี้เสื่อมลง จะส่งผลให้มีน้ำตาลหลงเหลืออยู่ในเลือดเป็นจำนวนมากเกินความจำเป็น ซึ่งสุ่มเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ถ้าขืนปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าที่ควรเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้หลอดเลือดเสื่อม ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น ไตวาย โรคหัวใจและหลอดเลือด เส้นเลือดในสมองแตก อัมพาต แผลหายยาก 

น้ำตาลในเลือดสูง

น้ำตาลในเลือดสูงกว่า200 หลังทานอาหาร เป็นเบาหวานนะจ๊ะ

อย่างไรก็ตาม การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยบอกความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ดี แต่ถ้าต้องการทราบความเสี่ยงให้เร็ว เพื่อป้องกันอย่างทันท่วงทีนั้น ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เทพ หิมะทองคำ แห่งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ บอกกับทางเดลินิวส์ออนไลน์ว่า ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร โดยไม่ต้องอดข้าวมาครึ่งค่อนวัน เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่ปรากฏจะเป็นตัวชี้ว่า ร่างกายของเราจัดการกับน้ำตาลได้ดีแค่ไหน จึงช่วยให้เห็นสัญญาณความผิดปกติได้เร็วกว่า และเพื่อป้องกันความเสี่ยงแบบไม่ต้องรอให้ป่วยเป็นเบาหวานไปแล้ว 

โดยการแปลผลระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร ถ้าต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่า ปกติ เพียงแต่แนะนำให้ควบคุมอาหาร หมั่นขยับร่างกาย รักษาจิตใจปลอดโปร่ง กรณีได้ระดับ 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จัดว่า เสี่ยงเป็นเบาหวาน แนะนำพบแพทย์ เพื่อตรวจความทนทานต่อน้ำตาลอีกขั้นตอน รวมทั้งควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลจิตใจ 

น้ำตาลสูง

น้ำตาลในเลือดสูง ระวังเบาหวาน

หากระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจหลังอาหาร เผยว่า คนๆ นั้นมีมากกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป ต้องถือว่า ป่วยเบาหวาน ต้องเริ่มทำการรักษา ร่วมกับการคุมอาหาร และไม่ละเลยการออกำลังกาย มีสภาพจิตใจที่ดี 

คุณหมอเทพ ยังบอกอีกว่า หากงดอาหารก่อนตรวจเลือด อาจทำให้พลาดโอกาสรู้ทันเบาหวานไปกว่าร้อยละ 50 ซึ่งอาจหมายถึงตรวจไม่เจอความเสี่ยง และถ้าปล่อยให้โรคดำเนินไปเงียบๆ ในร่างกายโดยไม่รู้เท่าทัน การตรวจสุขภาพปีต่อไปอาจบ่งบอกว่าเป็นเบาหวานแล้ว 

อยากป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากจะใส่ใจเรื่องอาหารการกินแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ.

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เดลินิวส์ออนไลน์

GM Thailand เผยราคา Chevrolet Sonic อย่างเป็นทางการเริ่มต้นที่ 548,000 บาท สูงสุด 687,000 บาท

GM ประเทศไทยพร้อมกับการเปิดรับจองรถซับคอมแพคท์สุดโฉบเฉี่ยวรุ่นใหม่ Chevrolet Sonic ด้วยการประกาศราคา
อย่างเป็นทางการโดยไม่ต้องเดาหรือนั่งเทียนพยากรณ์แต่อย่างใด GM ส่งทางเลือกมากถึง 8 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 
548,000 บาท ไต่ระดับไปจนถึง 687,000 บาท

Chevrolet Sonic ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Gamma II แพลทฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็กในเครือ GM ทั้งหมด 
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมที่หมดจดสมกับการเป็นรถยนต์รุ่นตัวตายตัวแทน Aveo ในบ้านเรา (ในยุโรปยังคงขายในชื่อ 
Aveo) 

alt

มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากผล
การสำรวจตลาดของเรา พบว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นให้ความสำคัญกับ ‘ปัจเจกนิยม’ หรือความโดดเด่นแตกต่าง
ของแต่ละบุคคล”

“Chevrolet Sonic มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ลูกค้าหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ เป็นกลุ่มคนที่ติดตามแฟชั่น รักความสนุก 
และชื่นชอบการเข้าสังคมด้วยความกระตือรือร้น” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าว

และเขายังกล่าวอีกว่า “คนกลุ่มนี้มีสังคมเพื่อนฝูงมากมาย ติดตามหลงใหลแฟชั่น ชอบการแสดงออกและเป็นจุดสนใจ 
และที่สำคัญที่สุดคือ รักความสนุกสนาน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่รักในการเปลี่ยนแปลง ต้องการที่จะสร้างความแตกต่าง 
Chevrolet Sonic เป็นรถสำหรับพวกเขาอย่างแท้จริง” 

อัตลักษณ์ด้านงานออกแบบของ Chevrolet Sonic นอกเหนือจากกระจังหน้าโบว์ไทแบบ Dual Port ขนาดใหญ่แล้ว 
GM ยังออกแบบโคมไฟหน้าแบบเปลือยกรอบหน้าที่อ้างว่าได้แรงบันดาลใจจากรถจักรยานยนต์ราคาสูงสมรรถนะเยี่ยม 
ผนวกเข้ากับซุ้มที่ช่วยกระตุ้นการขับขี่ให้เร้าใจขึ้น

ห้องโดยสารโดดเด่นด้วยมาตรวัดอนาล๊อค/ดิจิตอลแบบแยกส่วนจากแผงแดชบอร์ด GM ประเทศไทยเคลมว่าได้กลิ่นอาย
ของความเป็นรถยนต์สไตล์มอเตอร์สปอร์ต (ผู้เขียน : แผงมาตรวัดแนวนี้เคยติดตั้งใน Chevrolet Spark มาก่อนซึ่งทาง 
GM เคยเอ่ยว่าได้แรงบันดาลใจจากรถจักรยานยนต์ราคาแพง)

Chevrolet Sonic จะติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรรหัส A14XFR DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง 
(Double CVC) ความจุกระบอกสูบ 1,398 ซีซี 100 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.3 กิโลกรัมเมตร
ที่ 4,000 รอบต่อนาที เติมน้ำมันแก๊ซโซฮอล E20 ได้จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

GM ประเทศไทยเคลมว่า Chevrolet Sonic ได้รับการพัฒนาให้มีความเงียบในห้องโดยสารเพื่อความสบายสูงสุด ด้วย
เทคโนโลยี ‘Quiet Ride Technology’ ป้องกันเสียงลมและเสียงรบกวนจากพื้นถนนไม่ให้รบกวนเข้ามาในห้องโดยสาร

เชฟโรเลต โซนิค ซีดานในรุ่นกลางรหัส LT ใช้ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 195/65 ส่วนรุ่นสูงสุด LTZ จะใช้ล้อ
ขนาด 16 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 205/55 ขณะที่โฉมแฮทช์แบ็คทุกรุ่นย่อยจะใช้ล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55 

Chevrolet Sonic ทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับช่องจ่ายไฟสำหรับการชาร์จไฟอุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ต่างๆและติดตั้งเครื่อง
เสียงระดับพรีเมียม พร้อมลำโพง 6 ตัวในรุ่น LTZ โดยนอกเหนือจากแผงมาตรวัดสไตล์สปอร์ต และแผงควบคุมการทำงาน
ของรถที่มีในทุกรุ่นย่อยแล้ว ในรุ่น LTZ ยังมีออนบอร์ดคอมพิวเตอร์แสดงผลการทำงานของตัวรถอีกด้วย 

อุปกรณ์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะการเสริมคานเหล็กกันกระแทกด้านข้าง และเบาะ ISOFIX 
รองรับเบาะที่นั่งสำหรับเด็ก รวมถึงเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับความสูงต่ำได้และดึงกลับอัตโนมัติ 

สำหรับรุ่น LT มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงด้านผู้ขับขี่ ส่วนรุ่น LTZ จะติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงทั้งผู้ขับ
และผู้โดยสารด้านข้าง ขณะที่ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS และถุงลมนิรภัยด้านคนขับเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น LT 
และ LTZ ส่วนรุ่น LTZ จะติดตั้งถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเพิ่มเติม 

นอกจากนี้ ในรุ่น LTZ ยังมาพร้อมกับการตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณที่เปิดประตู และแผงคอนโซลหลัง ที่ให้ความโดดเด่น
ยิ่งกว่าเดิม

ส่วนใครถามหา Chevrolet Sonic เวอร์ชันติดก๊าซเห็นทีคงจะต้องรอกันเก้อเพราะ GM ยังยืนยันที่จะผลิต Aveo CNG 
ต่อไป

 

เชฟโรเลต โซนิค  ราคาจำหน่าย
NB 1.4 MT LS 548,000
NB 1.4 AT LA 578,000
NB 1.4 MT LT 588,000
NB 1.4 AT LT 615,000
NB 1.4 AT LTZ 679,000
HB 1.4 MT LT 601,000
HB 1.4 AT LT 632,000
HB 1.4 AT LTZ 687,000
*NB = น็อทช์แบ็ค 4 ประตู (ซีดาน)
*HB = แฮทช์แบ็ค 5 ประตู
*MT = เกียร์ธรรมดา 5 สปีด 
*AT = เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ถึงหน้าตาจะละม้ายคล้าย lancer แต่รูปลักษณ์ภายนอกดุดันกว่า อันนี้แล้วแต่คนชอบ ลองพิจารณาดูครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆและภาพสวยๆจาก headlightmag.com

รับเนื้อจระเข้ย่างซักไม้ไหมครับ จีนขายบาบีคิวเนื้อจระเข้ย่าง ไม้ละ 25 บาท

อาชีพใหม่  ขายบาบีคิวเนื้อจระเข้ย่าง  ไม้ละ 25 บาท

วันนี้ 21 ส.ค.  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  ที่ริมถนนแห่งหนึ่งในเมืองกุ้ยหยาง  มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน   มีร้านขายบาบีคิวร้านหนึ่ง  จำหน่ายเนื้อจระเข้ย่าง  และเนื้อสัตว์หายากอีกมากมายในราคาเพียงไม้ละ  5 หยวน (25 บาท) เท่านั้น

เนื้อจระเข้ย้าง

เนื้อจระเข้ย้าง

ทั้งนี้  ในรายงานระบุว่า  เจ้าของร้านดังกล่าวได้เปิดเผยว่า  เนื้อจระเข้นั้นมีรสชาติคล้ายกับเนื้อวัว  เป็นอาหารที่หาทานได้ยาก  ซึ่งเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและยังบำรุงเลือด  บำรุงกระดูก  รักษาโรคหอบหืด  โดยจะช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง   โดยจระเข้ที่นำมาขายนี้เป็นจระเข้ที่มาจากฟาร์มจระเข้ในมณฑลกวางตุ้ง  ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ประเทศอนุญาตให้จำหน่ายได้และทางร้านได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายเนื้อเหล่านี้อย่างถูกกฎหมายแล้ว

เนื้อจระเข้ย้าง

เนื้อจระเข้ย้าง

ขอบคุณภาพจาก cookiecoffee.com และข้อมูลจาก news.zubzip.com

มดตัวน้อยนิด แต่พิชิตความยากลำบากด้วยพลังสามัคคี

วันนี้หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จ เลยออกไปซื้อน้ำ กลับเข้ามา เจอน้องมด ตรึมเลย โอ้ว แม่เจ้า แต่เอ๋…..เป็นน้องมดดำ ไม่กัดคน ค่อยๆเดินตามก้นกันต้อยๆเข้ามาแทะเศษข้าว เศษอาหารบนโต๊ะ จากการสังเกตพบว่าตัวขามาก็จะเอาหัวหรือหนวดนี่แหละไปชนจึกๆกับเพื่อนที่กำลังจะกลับ(สงสัยไปเรียกเพื่อน) แล้วก็มีเพื่อนๆค่อยๆทยอยตามก้นกันมา เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากการค้นคว้าข้อมูลพบว่า มดที่อยู่ในอาณาจักรเดียวกันจะมีความสนิทสนมกันและคุ้นเคยกันโดยอาศัย กลิ่นจากสารเคมี pheromone ที่มดขับออกมาจากร่างกาย เพราะหลังจากที่นักชีววิทยาได้ทดลองเลี้ยง มดให้อยู่ด้วยกันนาน 3 เดือน แล้วจับแยกกันนาน 18 เดือน มันก็ยังจำเพื่อนของมันได้

พลังมด

พลังมด จ๊าก…

นักชีววิทยาบางคนคิดว่า มดเป็นสัตว์ที่มี สติปัญญาเฉลียวฉลาดยิ่งกว่าลิง การมีสติปัญญาที่สูงในสมองที่เล็กนี้ได้ทำให้มันมีวัฒนธรรม หนึ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่าคน คือความรู้สึกสามัคคีทุกหมู่เหล่าของมดเพราะสังคมมดเป็นสังคม สหชีวิตที่ชีวิตทุกชีวิตมีความหมายต่อทุกชีวิตอื่น อย่างที่เรียกกันว่า altruism ที่สังคมคนไม่มี ครับ

 

พลังมด ใจคอจะเอาหมดนี่เลยหรอ

พลังมด ใจคอจะเอาหมดนี่เลยหรอ

พลังมด ช่วยๆกันเร็ว

พลังมด ช่วยๆกันเร็ว


เนื่องจากมดมีสมองที่เล็กมาก (น้อยกว่า 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร) การมองเห็นไม่ดี ระบบ การมองเห็นเป็นแบบง่ายๆ ตาของมดไม่สามารถหมุนรอบได้ ดังนั้นภาพที่ตกบนจอรับภาพ (เรตินา) ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของตัวมดเมื่อหยุดมองสิ่งที่สังเกตมดจะจำวัตถุนั้นๆ ได้อย่างที่ตา เคยมองเห็น ถ้าเห็นวัตถุนั้นอีกแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมอื่น มดจะจำวัตถุนั้นไม่ได้ เมื่อให้มด ไปยังน้ำตาลและกลับรังหลายๆ ครั้ง มดจะหาสิ่งที่เป็นสังเกตมากขึ้น มดที่รู้แหล่งอาหารแล้ว เมื่อจะกลับไปที่แหล่งอาหารอีกก็จะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมนไปตามทางที่เกิน เพื่อให้ มดที่เหลือนั้นตามไปได้ถูกทาง มดที่เดินตามโดยอาศัยฟีโรโมนก็หาสิ่งที่เป็นสังเกตสำหรับ ตนเองเช่นกัน ทำให้ในการไปแหล่งอาหารครั้งต่อไปทำได้เร็วขึ้น มิน่าละมันถึงเรียกเพื่อนๆมาได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ถ้า การเมืองไทยและ ส.ส.ในสภาเรามีวัฒนธรรมที่ดีเหมือนมด มันก็คงจะดีมิใช่น้อย ว่าไหมครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/may11/ant.htm