Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย

Toyota Camry Hybrid 2012 ที่จะทำตลาดในเอเชียในอีกไม่กี่เดือนนี้ โดยการเปิดตัวจะมีขึ้นไล่ๆกับเวอร์ชั่นอเมริกา(ที่ดูเพรียวบางจนหลายคนบอกว่าหน้าตาคล้ายกับ Altis ของบ้านเราในบางมุม) ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้ก็คือ เครื่องยนต์ 2AR-FXE 2.5L Hybrid (2,493 ซีซี) ที่มาแทนเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 206 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ CVT 6 สปีด (โดยจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดสำหรับรุ่น Base เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทดสอบตามมาตรฐานญี่ปุ่นอยู่ที่ 26.5 กิโลเมตร/ลิตร ที่ถือว่าประหยัดน้ำมันมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 1

Camry เจนเนอเรชั่นที่ 9 นี้ มีมิติตัวถังที่ 4,825×1,825×1,470 มิลลิเมตร (กว้างกว่าโฉมปัจจุบัน 5 มิลลิเมตร) ฐานล้อยาว 2,775 มิลลิเมตร (เท่าเดิม) โดยยังคงสร้างบน K-Platform เช่นเดิม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.28 จุดเด่นของรถรุ่นนี้อีกอย่างก็คือ พื้นที่จุสัมภาระที่กว้างขวางมากถึง 440-1,120 ลิตร(ที่คงต้องมีการพับเบาะนั่งลง?!)

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 2

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุเลียนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ โลหะ และลายไม้ มาพร้อมเทคโนโลยี/อุปกรณ์ต่างๆอย่างครบครันทั้งพวงมาลัยแบบ Multi-Function ช่องต่อเชื่อม iPod หลังคาซันรูฟไฟฟ้า จอแสดงผล Multi-Function โหมดการขับด้วยไฟฟ้า (EV Mode) และโหมดประหยัดน้ำมัน (ECO Mode) เบาะนั่งไฟฟ้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ทาง Toyota ยังเน้นให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยมีอุปกรณ์อย่างระบบแจ้งเตือนการชนด้านหลังที่มีจอแสดงผลบนคอนโซลกลาง กล้องช่วยมองหลังและด้านข้างของรถเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 3

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดข้างต้นคือ สเปคและรายละเอียดของ Camry รุ่นปี 2012 ที่จะจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและเอเชียส่วนใหญ่ รวมถึงออสเตรเลียในชื่อรุ่นว่า Aurion ซึ่งสำหรับโฉมของไทยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบางอย่าง

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 4

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 5

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 6

ขอบคุณเนื้อหาจาก

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 7


Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest

Naza Quest ตัวแทนจำหน่ายรถจากค่าย Chevrolet แต่เพียงผู้เดียวในมาเลเซียได้ปล่อย Cruze รุ่นพิเศษออกมาให้สาวก Cruze ชาวไทยอิจฉาเพราะส่วนเกินห้ามใจ โดยจะมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 300 คันเท่านั้น เหตุผลในการผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะในการแข่งขัน WTCC ปี 2010 และเป็นเกียรติกับนักแข่งแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส Yvan Muller ซึ่ง Cruze Special Edition รุ่นนี้ใช้พื้นฐานของรุ่น 1.8 LT โดยมีการแต่งโฉมรอบคันพร้อมใส่ล้ออัลลอยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนราคาเริ่มต้นที่จำหน่ายจะไม่ต่ำกว่า 97,888 ริงกิตมาเลเซียซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่าประกันภัยและอื่นๆเอาไว้ด้วย

Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest  รูปที่ 1

ชุดแต่งบอดี้ของ Cruze รุ่นนี้ประกอบด้วยกันชนหน้าแบบใหม่ที่เน้นช่องไอดีให้ดูเด่นขึ้นมา สเกิร์ตข้าง กันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ฝังปลายท่อไอเสียซ้าย-ขวา สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง ไฟเลี้ยว LED ที่ครอบกระจกมองข้าง และคิ้วกันสาดประตู ส่วนล้ออัลลอยชุดใหม่เป็นขอบ 18 นิ้วทดแทนล้อชุดเดิมที่เป็นขอบ 16 นิ้ว หุ้มด้วยยางของ Falken ภายในใช้เบาะหนังเย็บตะเข็บสีแดง และมีชายบันไดเรืองแสงมีโลโก้ Cruze

Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest  รูปที่ 2

ปกติไม่แต่งก็สวยอยู่แล้ว พอเสริมแอโรพาร์ตเข้าไปเต็มๆแบบนี้ อาจจะทำให้ Honda คิดหนักว่า Civic ตัวใหม่จะทำอย่างไรดีกับโฉมปี 2012 ที่เป็นอยู่?!

ขอบคุณเนื้อหาจาก

All-New Volkswagen Beetle ปี 2012 เต่าโฉมใหม่ รูปที่ 4

เคี้ยวมากกว่า 40 ที ช่วยลดน้ำหนักได้

เคล็ดลับสุขภาพ

เคี้ยวข้าวมากกว่า 40 ที ช่วยลดน้ำหนักได้ (ไทยโพสต์)

นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การเคี้ยวอาหารนานขึ้นช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะจะช่วยลดจำนวนแคลอรีที่ร่างกายได้รับจากการบริโภค

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์บินของจีน พบว่า อาสาสมัครที่เคี้ยวอาหาร 40 ครั้งจะได้รับปริมาณอาหารน้อยลง 12% เมื่อเทียบกับการเคี้ยวอาหารโดยปกติ 15 ครั้ง เนื่องจากการเคี้ยวอาหารนานขึ้น ช่วยให้สมองมีเวลามากขึ้นในการรับสัญญาณระดับอาหารของกระเพาะ นอกจากนี้ การเคี้ยวอาหารนานขึ้นยังช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน ที่ทำหน้าที่สร้างความรู้สึก “หิว” ในระบบทางเดินอาหาร

โดยการทดลองครั้งนี้ นักวิจัยได้ทำการเกณฑ์อาสาสมัครวัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีที่มีรูปร่างผอม 16 คน และรูปร่างอ้วนอีก 14 คน แล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อทำการทดลอง 2 ครั้ง โดยการทดลองครั้งแรกเป็นไปเพื่อสังเกตว่า คนที่มีรูปร่างอ้วนมีพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารแตกต่างจากผู้ที่มีรูปร่างผอมหรือไม่ ซึ่งผู้ทดลองได้ให้อาสาสมัครทั้งกลุ่มคนอ้วนและผอมรับประทานพายหมู และมีกล้องที่ถูกซ่อนไว้บันทึกจำนวนการเคี้ยวก่อนกลืนอาหาร ซึ่งผลการวิจัยพบว่า แม้คนอ้วนจะเคี้ยวอาหารด้วยความเร็วเท่ากับคนผอม แต่คนอ้วนกลืนอาหารเร็วกว่ามาก

ส่วนการวิจัยครั้งที่ 2 กำหนดให้อาสาสมัครทั้งสองกลุ่ม เคี้ยวพายหมูจำนวน 15 ครั้งก่อนกลืน แล้วเปรียบเทียบกับการเคี้ยวพายหมู 40 ครั้งก่อนกลืนอาหาร ซึ่งนักวิจัยพบว่าอาสาสมัครทั้งสองกลุ่มได้รับแคลอรีน้อยลง 11.9% เมื่อเคี้ยวอาหาร 40 ครั้ง ส่วนผลการตรวจเลือด 90 นาทีหลังทานอาหารพบว่า อาสาสมัครทุกคนมีระดับฮอร์โมนเกรลินในร่างกายเมื่อเคี้ยวอาหาร 40 ครั้ง น้อยกว่าเมื่อเคี้ยวอาหาร 15 ครั้ง

นักวิจัยระบุในข้อค้นพบที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร “American Journal of Clinical Nutrition” ว่า การกินช้าลงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ การกินเร็ว กินทีละมาก ๆ หรือดื่มหนักต่างมีผลช่วยให้น้ำหนักเกินได้ ซึ่งงานวิจัยชี้ว่า อาสาสมัครที่มีน้ำหนักมากมักเคี้ยวอาหารน้อยครั้งกว่า และกลืนอาหารเร็วกว่าคนที่มีรูปร่างผอม

ขณะที่ผลสำรวจชาวอังกฤษ 1,000 คน โดยธุรกิจร้านแซนด์วิช “ซับเวย์” พบว่า คนอังกฤษโดยเฉลี่ยเคี้ยวอาหารเพียง 6 ครั้งเท่านั้นแล้วกลืนอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25-34 เป็นกลุ่มที่ทานเร็วที่สุด และยังพบอีกว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 15% มักทานอาหารขณะเดิน และมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่นั่งทานอาหารบนโต๊ะเป็นประจำ

แคเธอรีน คอลลีนส์ หัวหน้าแพทย์แผนกการรับประทานอาหารประจำโรงพยาบาลเซนต์ จอร์จ กรุงลอนดอน กล่าวว่า นอกจากการกินช้าจะมีผลต่อฮอร์โมนทางเดินทางอาหารแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน โดยเธอกล่าวว่า เวลาเราทานอาหารเรามักไม่รู้ตัวว่าเราทานไปจำนวนมากแค่ไหน แต่การเคี้ยวอาหารนานขึ้นช่วยให้เราสามารถรับรู้รสชาติ กลิ่น และเนื้ออาหารได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เรารับรู้ว่าเรากำลังทานอะไร และทานเข้าไปมากแค่ไหน

          “ผลที่ได้ก็คือ เราไม่รู้สึกหิวง่าย ๆ แม้เพิ่งทานอาหารไปแค่สิบนาที”

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

ความอ้วนก็เหมือนกับมหันตภัยเงียบ ที่คุณคาดไม่ถึง ยิ่งในปัจจุบันนี้ที่กระแสของอาหารบุฟเฟ่ต์กำลังมาแรง แน่นอนว่า

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

นิสัยรักความคุ้มเกินคุ้มย่อมทำให้หลายๆ คนเผลอใจ จนในที่สุดห่วงยางเส้นโตก็จะมากองอยู่ที่พุงของคุณ แต่อย่าเพิ่งเป็นกังวลมากไป เพราะวันนี้เรามีเทคนิคสยบความอ้วนในแบบที่คุณจะต้องตะลึง

หากคุณเคยเห็นทหารหาญทั้งชายและหญิงถือปืนวิ่งรอบกองพัน เป็นการฝึกซ้อมเพื่อปกป้องประเทศชาติ เราเชื่อเลยว่าภาพนั้นคือ แรงบันดาลใจให้ใครหลายคนรู้สึกอยากจะออกไปปั้นหุ่นสวยๆ ซึ่งการฝึกแบบ ท.ทหาร อดทน นอกจากจะทำให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว เจ้าพวกไขมันยังจะมลายหายไปในพริบตา

ความอ้วนนะแย่

ยิ่งคุณมีรอบพุงมากเท่าไร ไขมันก็จะยิ่งสะสมในช่องท้องมากเท่านั้น ไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับมีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี จนเกิดเป็น โรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 ซม. จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคเบาหวาน 3-5 เท่า ดังนั้น

ผู้ที่อ้วนลงพุงร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอีก 2 ใน 4 อย่างต่อไปนี้ มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ และอัมพาต

ความดันโลหิตตั้งแต่ 130/85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป

น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

ระดับไขมันไตรกรีเซอร์ไรด์สูงตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

ระดับไขมัน เอช-ดี-แอล คอเลสเตอรอลต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชาย หรือ ต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้หญิง

พิชิตอ้วน พิชิตพุง

รู้หรือไม่? คุณสามารถมีสุขภาพดีขึ้นได้ ถ้าน้ำหนักตัวลดลง 5-10% ของน้ำหนักเริ่มต้น เพราะจะทำให้ไขมันในช่องท้องลดลงไปได้ 30% ซึ่งจะทำให้ไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตลดลงด้วย โดยคุณจะต้องยึดหลักการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ดังนี้

1.มีความตั้งใจ และมุ่งมั่นจริงๆ ที่จะพิชิตความอ้วน

2. อารมณ์ดี ไม่เครียด และสร้างความคิดที่ดีให้กับตนเอง เช่น โ€œเราต้องทำได้โ€

3.ตั้งเป้าหมายของน้ำหนักที่จะลด ซึ่งควรมีความเป็นไปได้ และไม่ลดน้ำหนักมากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

4. ควบคุมพลังงาน โดยต้องควบคุมจากอาหาร ซึ่งต้องค่อยๆ ปรับลดลง สำหรับผู้หญิงไม่ควรน้อยกว่าวันละ 1200 กิโลแคลอรี และผู้ชายไม่ควรน้อยกว่าวันละ 1600 กิโลแคลอรี

5. เผาผลาญพลังงาน ด้วยการเคลื่อนไหวออกแรง และออกกำลังกายเป็นประจำ

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

ขยับแบบ ท. ทหาร ช่วยสลายไขมัน

ขั้นตอนแรกของการจะพิชิตความอ้วน คงหนีไม่พ้นเรื่องของการออกกำลังกาย ซึ่งวันนี้เราจะชวนคุณมาม่วนกับกายบริหารแบบแข็งขันอย่างชายชาติทหาร ที่ทั้งมีระเบียบ แถมยังสร้างหุ่นเฟิร์มได้อีกด้วย

ขั้นที่ 1

ทุกเช้าและเย็น ทหารใหม่จะต้องมีการวิ่งรอบสนามอย่างต่ำเป็นจำนวน 2 รอบ ดังนั้น พลเรือนอยากผอมก็ต้อง ปฏิบัติ!

ขั้นที่ 2

ต่อกันด้วยการแตะสลับซ้ายขวาอย่างทหารที่ต้อง นับ 1 2 3 1 เท่ากับ 1 ยก ทำทั้งหมด 20 ยก แต่คุณอาจปรับเปลี่ยนให้น้อยลงหน่อยก็ได้

ขั้นที่ 3

เข้าสู่ท่าที่ 3 กับการเหวี่ยงแขนลอดใต้ขา ทำทั้งหมด 20 ยก

ขั้นที่ 4

ต่อกันด้วยการกระโดดตบแบบแมนๆ 20 ยก ซึ่งท่านี้จะช่วยให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน

ขั้นที่ 5

เสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนและช่วงอกกับการดันพื้นอีก 10 ยก ซึ่งท่าออกกำลังกายเหล่านี้จะช่วยอบอุ่นร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่คนอยากผอมควรคำนึงให้ดี เพราะคุณจะต้องควบคุมพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวัน

หลักง่ายๆ ในการกิน

– กินอาหารครบ 3 มื้อ และต้องไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ซึ่งการลดมื้ออาหารจะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง

– ลดปริมาณอาหารทุกมื้อที่กิน โดยเริ่มแรกให้ลดข้าวลงมื้อละ 1 ทัพพี งดของหวาน ลูกอม น้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากนั้นสัปดาห์ต่อไปให้เริ่มลดข้าว หรือลดแป้งให้เหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

– เลือกกินอาหารพลังงานต่ำ ซึ่งอาหารจำพวก ข้าวกล้อง ผักสด ผลไม้สด เนื้อปลา นมถั่วเหลือง น้ำเปล่า คุณสามารถสวาปามได้อย่างเต็มคราบ

-กินผักและผลไม้ในแต่ละมื้อให้มากขึ้น เพราะกากใยในผัก ผลไม้จะช่วยขับไขมันในอาหารทิ้ง และชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

– เคี้ยวอาหารช้าๆ โดยใช้เวลาเคี้ยวประมาณ 30 ครั้งต่อคำ และส่งอารมณ์ความรู้สึกพอใจในรสชาติของอาหารให้สมองรับรู้ศูนย์ควบคุมความหิว-ความอิ่มที่สมองจะรับรู้ว่ากินอิ่มแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 นาทีดังนั้นอาหาร 1 จานเล็ก ควรใช้เวลาในการรับประทาน ไม่น้อยกว่า 15 นาที

– ต้องอดทนถ้าเพิ่งกิน คือคุณต้องอดทนหลังจากทานอาหารว่า ต้องพอ เพราะหลังจากนั้นเพียง 10 นาที ร่างกายจะรู้สึกอิ่มได้ โดยอาจใช้วิธีการเปลี่ยนท่าทาง หรือไปทำอย่างอื่นแทน แต่ถ้าทานอาหารแล้วยังรู้สึกหิวอยู่ ให้ทานผลไม้รสหวานสักคำสองคำ หรือจะดื่มน้ำเปล่าก็สามารบรรเทาอาการหิวได้

เห็นหรือยังว่า ความอ้วนสามารถพิชิตได้ไม่ยาก ขอเพียงแค่ใจพร้อม คุณก็สามารถทำได้ ส่วนการออกกำลังกายให้สุขภาพดีอย่างทหารยังไม่จบเพียงเท่านี้ เอาเป็นว่า อย่าลืมติดตามกันให้ดีๆ เพราะหุ่นกล้ามปูแบบนายร้อยยังมีวิธีให้พลเรือนอย่างเราๆ ทำตามได้อีกเยอะ

ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info

ข้อมูลโดย : www.e-magazine.info

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สัปดาห์นี้เตรียมสูตรเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากผลไม้ สรรพคุณช่วยฟื้นบำรุงผิวพรรณ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งกลับจากทริปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดฤดูฮอต ที่แม้จะสนุกแต่ผิวพรรณคงแห้งกร้านและเปลี่ยนสีไป

สูตรนี้ต้องใช้ แตงโม ผลฉ่ำหวาน เป็นแหล่งรวมเบตาแคโรทีน กับวิตามินเอที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และทำความสะอาดผิว ให้ดูเปล่งปลั่ง ทั้งยังมีวิตามินซีกันโรคหวัด และโพแทสเซียมที่ช่วยคลายความเครียด

อีกอย่าง คือ สตรอว์เบอร์รี่ อุดมด้วยวิตามินซี กรดโฟลิก ไบโอติน แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส คลอรีน โซเดียม และกำมะถัน ที่มีสรรพคุณบำรุงผิวพรรณเช่นกัน

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ ฟื้นผิวหลังซัมเมอร์

ส่วนผสมควรเตรียมตามส่วนต่อไปนี้…
แตงโม 2 ถ้วย
สตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

ขั้นตอนในการทำ ล้างทำความสะอาดแตงโมและสตรอว์เบอร์รี่ จากนั้นหั่นผลไม้ทั้งสองชนิดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดพอประมาณ ไม่ต้องเลาะเอาเมล็ดออก จากนั้นปั่นพร้อมกันด้วยเครื่องปั่นพอแหลก แล้วจึงเติมน้ำแข็งป่นลงไป ไปต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี เทใส่แก้วแล้วดื่มทันที

หากปั่นน้ำแตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ ตามสูตรข้างต้นแล้วดื่มเป็นประจำ พร้อมทั้งไม่ลืมดื่มน้ำสะอาด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และทาครีมบำรุงผิวอีกแรง ไม่นานผิวพรรณก็จะกลับมานุ่มเนียน ชุ่มชื่นอย่างเคย.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

6 ข้อเสียของการกินหนัก

6 ข้อเสียของการกินหนัก  การกินมากไปก็ทำให้เป็นทุกขลาภแห่งลำไส้ ซึ่งอาการจัดหนักจากการกินมากเกินไปในแต่ละมื้อโดยเฉพาะบุฟเฟ่ต์และท่านที่ชอบกินจนอิ่มมาถึงคอหอยก่อให้เกิดลาภลอยได้โรคดังต่อไปนี้

6 ข้อเสียของการกินหนัก

เริ่มตั้งแต่ ‘หิวไว’ คนกินหนักจะหิวไวในมื้อต่อไปครับ เพราะกระเพาะลำไส้ต้องทำงานหนักในการย่อยมื้อใหญ่ และน้ำตาลในเลือดก็จะลดไวทำให้เกิดอาการน้ำตาลต่ำหิวไวง่ายขึ้น

กินมากๆ ยังทำ ‘ไส้พัง’ เครื่องในก็เหมือนเครื่องรถที่ไม่ได้งดเว้นงานบ้างก็จะเสื่อมเร็ว อาหารที่เข้าไปมากทำให้ลำไส้เกิดปัญหา รั่ว ได้ และจากการบีบตัวไม่ได้พักก็ทำให้ กรดไหลย้อน มาถามหาได้เหมือนกัน

อาหารล้นท้องพลอยจะเจอ ‘ตาตั้ง’ ถ้าไม่ระวังกินจนอิ่มจัดจะทำให้เกิดอาการ ตื่นตา นอนไม่หลับเพราะลำไส้ไม่ได้พักและเกิดการแน่นอึดอัดท้องจากแก็สในอาหารที่หมักกันจนพุงหลามได้เหมือนถังเบียร์

กินจุคงเลี่ยง ‘นั่งอ้วน’ ได้ยาก ซึ่งตรงมาและตรงไปในบริบทของผู้รักบริโภค ยิ่งกินมื้อหนักอย่างบุฟเฟ่ต์มากเท่าไรก็ยิ่งได้แคลอรีส่วนเกินที่ลดยากขึ้นเท่านั้น เพราะการกินหนักเป็นบางมื้อทำให้ร่างกายเครียดและตับพังมีการหลั่งฮอร์โมนมารออกมาเพื่อเก็บไขมันไว้ให้มากขึ้นเพิ่มพูนน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

ทั้งยัง ‘ชวนหงุดหงิด’ ชีวิตแห่งการกินจะไม่มีวันสงบสุขด้วยอารมณ์ที่ทุกข์ขึ้นลงจากลิ้นที่ยึดรสเป็นสรณะ จะว่าคนอ้วนอารมณ์ดีนั้นก็ถูก แต่คนกินเก่งนั้นยากที่จะหาพื้นอารมณ์ที่แน่นมั่นคงได้เพราะเคมีในกายต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่อาหารเข้าปากและหนึ่งในเคมีที่ว่าคือ เคมีแห่งอารมณ์ ครับ

และสุดท้าย ‘คิดไม่ออก’ คนกินอิ่มจัดไปทำให้ หัวไม่แล่น ครับ หนึ่งคือจากเลือดพากันไปเลี้ยงไส้เสียมากกับสองคือจาก โกร๊ทฮอร์โมน ไม่หลั่ง ทำให้ไม่มีพลังทั้งแรงกายและแรงใจที่ใช้คิด ถ้าอยากมีสมองที่แจ่มใสขึ้นขอให้กินแบบ หิวนิดๆ ครับเป็นการสงวนความคิดไว้ไม่ให้จมไปกับมื้อหนักหมด

การกินเยอะสิ่งแล้วยังฟีเจอริ่งด้วยของหวานอีกก็ถือเป็นอนันตริยกรรมแห่งการบริโภคเหมือนกัน อย่าสำคัญตัวผิดว่าเป็นชูชกอยู่เพื่อกินหรือถือคติว่าท้องแตกดีกว่าของเหลือเพราะเมื่อถึงเวลาป่วยแล้วจะต้านไม่อยู่โรคจู่โจมแบบไม่ติดเบรค เพราะเครื่องยนต์กายเราไม่ได้ทำไว้ให้ กินจนล้น หากแต่สร้างไว้อย่างพอดีสำหรับให้กินอิ่มพอดีจนถึงว่า หิวนิดๆ ก็ยังอยู่ได้ด้วยมีระบบทดพลังงานไว้ให้ใช้ยามจำเป็น เห็นได้จากยามอดที่จะเกิดอาการง่วงซึมเพื่อจะได้ลดการใช้แรงลง แต่ในทางตรงข้ามยามอิ่มล้นเปี่ยมสุขร่างกายก็จะเกิดการง่วงเหมือนกันแต่เป็นการง่วงแบบกะปลกกะเปลี้ยที่เกิดจากอวัยวะภายในทำงานอย่างหนัก แล้วก็มัก ได้เรื่อง ตามมา

คราวหน้าจะกินหนัก คงต้องยั้งปากให้กินแค่พออิ่มกันแล้ว

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส  เราขอแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณได้เป็นเจ้าของร่างกายที่แข็งแรงฟิตเปรี๊ยะราวกับเด็กสาว เพียงคุณเล็งเห็นความสำคัญของปัจจัยพื้นฐานสามประการในการดำรงชีวิตต่อไปนี้ ความฝันของคุณที่จะมีหุ่นสวยสุขภาพดี และจิตใจที่แจ่มใสมีพลังก็จะเป็นความจริง

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายทำให้สมองหลั่งสารเอนโดร์ฟิน หรือที่เรียกกันว่า สารแห่งความสุขออกมา สารนี้ช่วยให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น และช่วยผ่อนคลายความเครียด เพราะเอนโดร์ฟินทำหน้าที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด นอกจากนี้การออกกำลังกาย จะทำให้เกิดการแตกตัวของไขมันซึ่งจะทำให้ร่างกายสร้างแอล ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่คล้ายคลึงกับสารเซโรโทนินหรือสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกเป็นสุขออกมา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดความวิตกกังวลและทำให้ทัศนคติที่เรามีต่อตัวเองดีขึ้นอีกด้วย บ่อยครั้งที่เราจะรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้นหรือสัดส่วนกระชับขึ้นหลังออกกำลังกาย และไม่ว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก หรือแบบต้านแรงเช่น การยกน้ำหนัก หรือเล่นเวทจะทำให้เรารู้สึกสดใส มีพลังและยังมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นของแถม

ทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสามารถช่วยลดความเครียดได้ แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณรับประทานอาหารขณะรีบร้อนหรือรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวสูงเกินไปเช่น เค้ก คุ้กกี้ หรือน้ำอัดลม อาจทำให้คุณรู้สึกเครียดมากขึ้นได้ โดยปกติแล้วเรามักจะเผลอทานอาหารหวานจัดเวลาเครียดโดยคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มพลัง แต่ทางที่ดีคุณควรจะหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะอาหารสดๆที่ปราศจากสารปรุงแต่งจะช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โปรตีนคุณภาพจากปลา ไข่ หรือเต้าหู้ช่วยซ่อมแซมเนื่อเยื่อที่สึกหรอ ผักและผลไม้สดเป็นแหล่งสำคัญของใยอาหารรวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญต่อร่างกาย อาหารนมมี แอล ทริปโตเฟนสูงที่จะช่วยสร้างสารเซโรโทนิน กรดไขมันโอเมกาสามช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและช่วยแก้อาการซึมเศร้า ดังนั้นอย่าลังเลที่จะทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์เวลาที่คุณรู้สึกเครียด

นอนพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดี ถ้าเรานอนไม่พอร่างกายจะตกอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง และร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดที่เป็นพิษออกมาทำลายสุขภาพ จากการวิจัยพบว่าคนเราควรนอนหลับให้ได้โดยเฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล : วี สลิม บิวตี้ สปา (Vie Slim Beauty Spa)

ข้อมูลโดย : วี สลิม บิวตี้ สปา

วิธีทำหน้าอกสวย เรื่องของนมที่ไม่ควรมองข้าม

วิธีทำหน้าอกสวย เรื่องของนมที่ไม่ควรมองข้าม

ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ผู้หญิงทุกคนก็ต้องการที่จะมีหน้าอกที่สวยงามกันทั้งนั้น

 

วิธีทำหน้าอกสวย เรื่องของนมที่ไม่ควรมองข้าม

ซึ่งหน้าอกหน้าใจของคุณผู้หญิงนี้เองที่ทำให้พวกเธอมีความมั่นใจ มีความเป็นหญิงในด้านรูปร่าง รวมไปทั้งการใส่เสื้อผ้าต่าง ๆ ได้สวยงามดึงดูดใจ การจะทำให้ส่วนนี้ของร่างกายดูดีจึงเป็นสิ่งที่ผู้ิหญิงทั่วไปให้ความสนใจ ซึ่งเราจะเห็นว่าสินค้าเกี่ยวกับเสื้อชั้นในผู้หญิงรุ่นต่าง ๆ ออกมาสู่ตลาดเพื่อให้ผู้สวมใส่มีหน้าอกที่สวยดูดีนั่นเอง

จากการค้นคว้าทำให้มีข้อมูลในการทำให้หน้าอกสวยงามดูดี ซึ่งคุณผู้หญิงสามารถนำไปใช้เพื่อให้สามารถคงความสาว และสวยของหน้างอกไว้ได้ตราบนานเท่านาน การค้นคว้าวิจัยข้อมูลต่าง ๆ เห็นตรงกันว่าอายุที่เพิ่มขึ้น และแรงโน้มถ่วงของโลกมีผลอย่างมากกับรูปทรงของทรวงอก ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำข้อควรปฏิบัติง่าย ๆ ที่คุณผู้อ่านสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที

1. ควบคุมการกินอาหาร

เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับ oestrogen hormone ในร่างกายของคุณสูงขึ้นมากเกินไป ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีอัลกอฮอล์กในปริมาณมาก ๆ และพยายามรับประทานผัก และผลไม้ที่มีกากใยสูง ซึ่งจะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ ทำให้ผิวของคุณเต่งตึงมีน้ำมีนวลน่าสัมผัส และเป็นสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อให้มีหน้าอกสวยๆ เป็นของตัวเอง

ได้รับปริมาณโปรตีนที่มากพอ โปรตีนเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่ดี และยังสร้างคอลลาเจนให้กับผิวอีกด้วย ซึ่งกล้ามเนื้อ และคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้หน้าอกของสาว ๆ ดูเต่งตึงน่าสัมผัส

คุณสามารถใช้ไขมันที่พบในปลา และโอลีฟออย มาใช้เพื่อทนแทนไขมันที่มาจากสัตว์ชนิดอื่น เนื่องจากไขมันจากปลา และโอลีฟออยนั้นจะดีต่อสุขภาพของคุณมากกว่า นอกจากนี้ควรได้รับผลไม้ และผักในจำนวนที่มากพอเป็นประจำทุกวัน

2. เลือกใช้บราที่ดี เหมาะกับสรีระของคุณ

การสวมใส่ยกทรง หรือบราที่ดีจะทำให้หน้าอกของคุณได้รับการปกป้องดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากหน้าที่ของบราคือช่วย support หน้าอกจากแรงโน้มถ่วงของโลก อีกทั้งยังมีหน้าที่ช่วยรักษาทรงของคุณไว้ไม่ให้เสีย หรือหย่อนคล้อยไปตามการเวลา ควรเลือกบราเฉพาะอย่าง สำหรับแต่ละกิจกรรม เช่นเมื่อออกกำลังกายควรใช้บราที่ดูและเป็นพิเศษ เพราะจะมีแรงกระแทก กระเด้งกระดอนสูง อีกตัวอย่างเช่น เมื่อกำลังให้นมบุตร ก็ควรเลือกใช้บราให้เหมาะสม เป็นต้น

ควรเลือกใช้บราให้ถูกขนาด การเลือกขนาดของบราเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คน ปัญหาที่ตามมาเมื่อใช้บราขนาดไม่ถูกต้องก็คือ หน้าอกจะไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่บราที่คัุบเกินไป หรือหลวมเกินไป นอกจากนี้ควรมีช่วงหนึ่งของวันที่หน้า้อกของคุณไม่ถูกบีบรัดจากบรา เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และเป็นการคืนอิสระภาพให้แก่หน้าอกที่รักของคุณ โดยปกติแล้วคุณควรปล่อยให้หน้าอกของคุณได้เป็นอิสระจากบราประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน ในการเลือกขนาดของบราที่เหมาะสมนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คำแนะนำจากร้านค้าชั้นนำ ไม่ควรใช้ของถูกเกินไป เพราะไม่ได้ออกแบบมาเป็นอย่างดี เรื่องแบบนี้ไม่ควรเสียดายเงิน เพราะเดี๋ยวหน้าอกสวย ๆ จะพังเอา

3. ควบคุมน้ำหนัก

หากคุณมีปริมาณไขมันในทรวงอกมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังในส่วนนั้นเกิดการตึงมากเกินไปเหมือนกับลูกโป่ง ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อผิวของหน้าอก เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เกิดการแตกลายของผิวได้ หน้าอกจะดูไม่สวยงาม นอกจากนี้ถ้าคุณมีการลดน้ำหนักมากเกินไปก็อาจจะทำให้หน้าอกที่เคยเต่งตึงมีอาการลีบแบน และดูเหมือนถุงกาแฟหย่อนหยานได้เช่นกัน

การควบคุมน้ำหนักที่ดีจะต้องทำสองอย่างควบคู่กันไป คือควบคุมอาหาร รวมทั้งปริมาณไขมันในร่างกาย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากคุณต้องการจะลดน้ำหนัก ควรทำอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดอาการแตกลาย หรือมีอาการเหี่ยวแห้งจนร่างกายไม่มีน้ำมีนวล ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติครูฝึกที่ยิมจะสามารถให้คำแนะนำแก่คุณได้เป็นอย่างดี ที่เหลือแก่แค่เอาใจใส่ตัวเอง และลุกขึ้นมาทำตัวให้ดูดี ทีนี้หน้าอกสุดเซ็กซี่จะหนีไปไหนเสีย

4. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว การออกกำลังกายที่ดีจะช่วยคุณในการควบคุมน้ำหนัก และทำให้กล้ามเนื้อเกิดความแข็งแรงขึ้น ซึ่งกล้ามเนื้อมัดด้านในที่อยู่ใต้ไขมันในทรวงอกจะมีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้หน้าอกของสาว ๆ ดูเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัย กล้ามเนื้อในส่วนนี้จะช่วยทำให้หน้าอกมีความกระชับ ยกชูชัน ไม่หย่อนคล้อย ท่าออกกำลังกายเพื่อบริหารหน้าอกได้แก่ การวิดพื้น หรือที่เรียกกันว่า push-up การยึดข้อ หรือดึงตัวขึ้นโหนบาร์ อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายประเภทนี้ไม่ได้ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของบทความนี้อยู่แล้ว คุณควรจะมุ่งเน้นที่การทำให้หน้าอกไม่ห้อยยายน่าเกลียด คือขนาดบางครั้งก็ไม่สำคัญเท่ากับหน้าอกของคุณดูสวยงาม เหมาะกับคุณและน่าหลงไหลหรือไม่ ใหญ่แต่ย้อย ห้อยยาน ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน

การออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าอกอย่างเหมาะสม จะทำให้สรีระของคุณดูไม่แก่ก่อนวัย นอกจากนี้ยังมีท่าต่าง ๆ ที่เน้นการออกกำลังกายเพื่อให้มีหน้าอกที่สวยงามโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Pec Press, Butterfly Press, หรือ Pectoral Push-Ups (อ่านต่อได้ที่ SP Blog)

5. นวดเฟ้นน้องนม

การนวดหน้าอกที่ถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความกระชับเต่งตึงของหน้าอกไว้ ทำให้คงความสาวและสดของหน้าอกหน้าใจไว้ได้อีกนาน ทำให้เรื่องนมนมไม่เป็นเรื่องหนักอกอีกต่อไป การนวดที่ถูกวิธีพร้อม ๆ กับใช้ครีมที่ดีซักตัวนึงในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตของหน้าอก จะช่วยป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกินจากผิวแห้งกร้าน และทำให้หน้าอกมีความอ่อนเยาวน์ เต่งตึงสวยงาม

แน่นอนว่าหน้าอกสวย ๆ นั้นเป็นผลมากจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่เฉพาะรูปร่างความสวยงาม แต่ต้องเป็นการดูแลสุขภาพควบคุมไปด้วย หากจะมีหน้าอกที่สวยงามคุณต้องดูแลตัวเองทั้งภายนอก และภายในควบคู่กันไป เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะพยายามรักษาอวัยวะที่บ่งบอกความเป็นแม่ในตัวคุณให้อยู่กับคุณตราบนานเท่านาน การดูแลหน้าอกตัวเองอย่างสม่ำเสมอยังช่วยทำให้คุณเห็นความผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นอาการแรกเริ่มของโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งเต้ามนมได้อีกด้วย ดังนั้นให้คุณผู้หญิงหันมาใส่ใจดูแล นม กันเสียตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป

 

ที่มาข้อมูล : www.sp-cosmeticsurgery.com