เขื่อนลำปาว ร้านอาหารริมเขื่อน ธารน้ำไหล วิถีชีวิตคนน้ำดำ

เขื่อนลำปาว ร้านอาหารริมเขื่อน ธารน้ำไหล วิถีชีวิตคนน้ำดำ หลายท่านอาจจะเคยตอบคำถามเพื่อนๆสมัยประถมว่า เขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทยชื่ออะไร…..ตอบถูกใช่ไหมละครับ เขื่อภูมิพล…เฮ้ยไม่ใช่ เขื่อนลำปาวต่างหาก วันนี้ได้มีโอกาสแวะไปทานข้่าวเที่ยงที่ใต้เขื่อน บริเวณที่เขาปล่อยน้ำหรือสปินเนอร์อะไรประมาณนี้แหละครับ ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะมีคน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตก น้ำคงเยอะและเป็นวันราชการไม่ใช่วันหยุด แต่ผิดคาด มีคนแวะเวียนมาจับจองที่นั่งริมน้ำอย่างไม่ขาดสาย เพราะน้ำเหนือเขื่อนยังน้อย ปล่อยออกไปได้ไม่เยอะ ที่นี่สร้างรายได้ให้กับแม่ค้า(หรือนายทุนหว่า)อย่างเป็นกอบเป็นกำ เรียกได้ว่า  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินให้จังหวัดได้ไม่น้อยทีเดียวในแต่ละปี เพราะสอบถามจากแม่ค้าแล้ว วันหยุดช่วงนี้อย่าให้พูดถึง เต็มตลอด เพราะฉะนั้น ถ้าท่านใดวางแผนจะพาสาวมาเดทหรือพาครอบครัวมาเที่ยว ก็ออกจากบ้านแต่เช้าหน่อย มาถึงนี่ประมาณ10โมงกว่ากำลังดี เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิอิ หลังจากทานอาหารเสร็จก็เลยเก็บภาพมาฝากเล็กๆน้อยๆครับผม

ลานจอดรถ กว้างขวาง

ร้านน้องเม็ด กระท่อมริมปาว

ทางลง ระวังลื่น

ทางลง ระวังลื่น ถ้าหมื่น หัวแตกแน่

ทางลง กระท่อมริมปาว

ทางลง กระท่อมริมปาว

เข้ากันไหม?

เข้ากันไหม?

แม่เป้งเป็นออร์เดิฟ เสริฟร้อนๆ

แม่เป้งเป็นออร์เดิฟ เสริฟร้อนๆ

ปลานิลเผา สดๆ หวานๆ อย่างนี้สิ

ปลานิลเผา สดๆ หวานๆ อย่างนี้สิ

ส้มตำ พริก 2 เม็ด แซ่บ....บรื๊อ...

ส้มตำ พริก 2 เม็ด แซ่บ….บรื๊อ…

ผู้ร่วมการเดินทาง

ผู้ร่วมการเดินทาง

 

ธารน้ำไหล

ธารน้ำไหล

ยายกะลังตกปลา หลายเอ้ย

ยายกะลังตกปลา หลายเอ้ย

ทอดแหโดยไม่ใช้น้ำมัน

ทอดแหโดยไม่ใช้น้ำมัน

กลับบ้านดีกว่า

กลับบ้านดีกว่า

กระท่อมริมลำปาว

กระท่อมริมลำปาว

กระท่อมริมลำปาว2

กระท่อมริมลำปาว2

ไว้มารอบหน้าจะเก็บอีกหลายๆมุมมาให้ชมนะครับ สวัสดี…

กระต่ายหูตก เพื่อนยามเหงาที่ไม่เห่าเสียงดัง

กระต่ายหูตกหรือ Holland lop จัดเป็นกระต่ายหูตกตัวเล็กที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนเลี้ยงกระต่ายทั้งในไทย และต่างประเทศ  เพราะนอกจากจะเป็นกระต่ายที่เชื่อง ฉลาดแสนรู้ หลายคนยังบอกว่ามันช่างน่ารักเหมือนตุ๊กตาซะจริง ๆ แต่ก่อนที่จะตกหลุมรักกระต่ายพันธุ์นี้จนอยากหามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาแล้วล่ะก็ ลองไปทำความรู้จักกับเจ้าขนปุย ฮอลแลนด์ ลอป กันก่อนดีกว่าครับ

กระต่ายหูตก holland lop

กระต่ายหูตก holland lop

ฮอลแลนด์ ลอป (Holland lopHolland lop) เป็นกระต่ายในกลุ่มหูตกที่มีขนาดเล็กสุด Adriann de Cock ได้ทำการพัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมา ในปี ค.ศ.1951 จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง French Lops กับ Netherlands Dwarf’s. โดยเดิมตั้งชื่อว่า ” Dwarf Lop” แล้วแผลงมาเป็น Holland lop ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กระต่าย ฮอลแลนด์ ลอป มีจุดเด่นอยู่ที่หัวกลมโต ลำตัวสั้น กะทัดรัด น้ำหนักน้อย ขนสั้นนุ่มลื่นเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วน่ารักเหมือนตุ๊กตา ทั้งยังมีหุ่นที่แข็งแรงบึกบึน ความสูงและขนาดลำตัวมีความสมดุล หูหนาและมีขนขึ้นเต็ม ความยาวของหูต้องสัมพันธ์กับหัวและตัว โดย ฮอลแลนด์ ลอป ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักของตัวผู้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม ส่วนตัวเมีย 1.7-1.8 กิโลกรัม

ลูกกระต่ายหูตก อายุ 2 สัปดาห์

ส่วนเรื่องนิสัย ฮอลแลนด์ ลอป ขึ้นชื่อว่าเป็นกระต่ายกินจุพอสมควร เพราะสนุกกับการกินเอามาก ๆ โดยเฉพาะอาหารเม็ด หลายท่านอาจจะเคยเลี้ยงกรต่ายบ้านที่มีคนเอามาขายตามตลาดนัด งานกาชาด ตัวเล็กๆน่ารัก แต่เอาไม่กี่วันก็ตาย เพราะมันยังเป็นกระต่ายเด็ก ยังไม่อย่านมเลย บางท่านอาจจะให้ผักที่เอามาจากตลาดให้กิน ก็ตายเพราะสารฆ่าแมลงได้เพราะฉะนั้นอย่าไปสนับสนุนคนขายกระต่ายเด็กนะครับ นอกจากนี้เจ้าหูตกยังฉลาดแสนรู้ สามารถจดจำชื่อของตัวเองและเจ้าของได้อย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันก็มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ก็ยังต้องการเวลาที่จะได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าของอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง การเลี้ยงควรให้อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนจัด ลมไม่พัดแรง และที่สำคัญคือ ต้องไม่ชื้นแฉะ ซึ่งฟาร์มเพาะกระต่ายใหญ่ๆนั้นเขาจะเลี้ยงเจ้าหูตกไว้ในห้องแอร์ เพราะเจ้าหูตกไม่ค่อยชอบอากาศร้อนซักเท่าไหร่

ลูกกระต่ายหูตก แรกเกิด

สำหรับความหลายหลายของเจ้าหูตก ฮอลแลนด์ ลอป มีให้เลือกมากมายถึง 7 กลุ่มสี คือ กลุ่มอะกูติ (Agouti) กลุ่มสีขาวแต้ม (Broken) กลุ่มสีขาวมีมาร์กกิ้งแปดแต้ม (Pointed White) กลุ่มสีพื้น (Self) กลุ่มสีเฉด (Shaded) กลุ่มสีพิเศษ (Ticked) และกลุ่มสีอื่น ๆ (Wide Band) รวมทั้งกลุ่ม สร้อยทอง หรือ ออตเตอร์ ที่ได้การรับรองล่าสุดจาก ARBA

กระต่ายหูตก

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

ส่วนราคาขาย ฮอลแลนด์ ลอป ราคาเกรดเลี้ยงทั่วไป จะเริ่มกันที่ประมาณ 3,000 – 3,500 บาทขึ้นไป แต่ของผู้เขียนก็เลี้ยงเหมือนกัน เลี้ยงแบบบ้านๆ สวยในเกรดเลี้ยงทั่วไป ราคา ตัวละ 1,000 บาท ท่านใดสนใจ อยู่แถวกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหารก็สามารถติดต่อได้นะครับ 080-4614493 lแต่ในเกรดประกวด จะเริ่มตั้งแต่ 8,000 บาท จนถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

กระต่ายหูตก เกรดเลี้ยงเล่น

ชินชิล่า จอมซน

Broken chin จอมป่วน

เอ้า..ใครที่รักสัตว์ และกำลังมองหาเพื่อนใหม่อยู่ล่ะก็ ฮอลแลนด์ ลอป ก็จัดเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าพิศมัยไม่เบาเลยละครับ

 

อยู่ อ.นาคู กาฬสินธุ์ ตั้งครรภ์แล้วควรฝากท้องที่ไหนดี

สมุดฝากครรภ์ กาฬสินธุ์

อยู่ อ.นาคู กาฬสินธุ์ ตั้งครรภ์แล้วควรฝากท้องที่ไหนดี….?

สืบเนื่องจากผู้เขียน ได้รับเกียรติอันสูงส่ง จากคนบนฟ้า ได้ประทานผู้สืบสายเลือดลงมาเป็นบุตร(เวอร์ไปแล้ว….) พอรู้ว่าภรรยาเริ่มตั้งครรภ์เพราะประจำเดือนขาดหายไปประมาณ 2 เดือน นับดูแล้วก็น่าจะถึงเวลาของการฝากครรภ์ เพื่อให้ผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านช่วยดูแลสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่ารักในท้องใบน้อยของศรีภรรยาของผู้เขียน แต่คำถามก็คือ เราจะฝากกับใครล่ะ ไปฝากยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง …..?

1.เตรียมข้อมูล ความรู้เบื้องต้นในการมีบุตร

คือต้องบำรุงอะไรบ้าง เช่นควรกิน โฟลิคตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ถึง 3 เดือนแรก ยาบำรุงเลือด DHA 70% นมเสริมแคลเซี่ยม เน้นปลาเป็นหลัก ผักเป็นรอง ผงชูรสให้เลี่ยง น้ำอัดลมให้ถอย กินอยู่เพื่อลูกน้อย ออกมาสุขภาพแข็งแรง

2.จะฝากท้องที่ไหน คือ ฝากกับแพทย์ที่คลีนิค ฝากกับแพทย์ที่โรงพยาบาล(ไม่รู้จะเจอแพทย์ท่านไหน) ฝากกับพยาบาลที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน

อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกแลัความศรัทธาของแต่ละท่าน แต่ถ้าอยากให้หมอคนนี้ทำคลอดแนะนำให้ไปฝากกับท่านที่คลีนิคตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อย(ไปตอนท้องแก่ท่านอาจไม่รับ)

3.ท่านจะเลือกวิธีคลอดแบบใด(ถ้าไม่มีภาวะผิดปกติ)

คลอดเองตามธรรมชาติ เจ็บตอนเบ่ง แต่มันก็เป็นกลไกธรรมชาติ ร่างกายฟื้นตัวเร็ว หรือจะคลอดแบบผ่าทางหน้าท้อง ไม่เจ็บตอนผ่าเพราะโดนยาสลบหรือบล๊อกหลัง แต่หลังจากคลอดเสร็จจะเจ็บแผลมาก ใช้เวลาฟื้นฟูนาน ยกของหนักไม่ได้ไปหลายเดือน ที่สำคัญ ปอดของเด็กไม่ได้ถูกบีบรักจากช่องคลอด ทำให้ปอดไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก

เด็กแรกเกิด

4.ถ้าท่านเลือกที่จะคลอดกับแพทย์(ฝากพิเศษ)

ในโซนจ.กาฬสินธุ์ กับสกลนคร เพราะผมอยู่ อ.นาคู สกลกับกาฬสินธุ์ระยะทางการเดินทางไปฝากท้องใกล้เคียงกัน พบว่า ที่แรกที่ผมไปคือ สกลนคร แพทย์สูตินรีเวช คนไข้เยอะมาก โดยเฉพาะแพทย์ท่านที่ตั้งคลีนิคอยู่ที่สามแยก ธ.กรุงเทพ สกลนคร ใกล้ๆกับหอการค้าสกลนคร จนท่านไม่สามารถรับคนไข้ฝากครรภ์ได้อีก จึงเดินจูงมือกันข้ามถนน ต๊อกๆๆ ไปถามแพทย์สูติอีกท่านที่อยู่ตรงข้ามกัน ก็ปรากฎว่าไม่สามารถรับคนไข้ฝากครรภ์ได้อีก…. อืม แค่ 2 ที่ก็คงจะพอเพียงแล้วแหละ เราคงไม่มีวาสนาต่อกันที่จะเกิดในแผ่นดินสกล….เฮ้อ บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ามีคนรู้จักใน รพ.ที่เราจะไปคลอดให้สืบข้อมูลมาให้เรียบร้อยว่าหมอไหนรับคนไข้และดูแลดีบ้าง จะได้ไม่เสียเวลา เสียค่าน้ำมันฟรีๆ 555+ ในวันถัดมาจึงเดินทางเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อที่จะมาฝากกับแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ใครๆก็แนะนำมาพบท่าน คลีนิคท่านตั้งอยู่ซอย รพ.ธีรวัฒน์ ก่อนจะถึงโต้รุ่งฝั่งขวามือ รอตรวจตอนเช้าตรู่ คนไข้เยอะพอสมควร พอท่านเดินเข้ามา เฮ้ย…หมอทำไมวัยรุ่นซิ่งๆเลยอะ ท่านแต่งตัวสบายๆ น่ารัก พูดคุยเป็นกันเอง เจาะเลือดภรรยาผมไป 1 เข็ม ถ้ามีผิดปกติ ผมอาจจะโดนด้วยครั้งหน้า เหอๆ ได้อุลตร้าซาวด์ พบว่าเด็กในท้องมีอายุครรภ์ 11 สัปดาห์ กำหนดคลอดเดือน ก.พ.56 พอเห็นรูปหัวใจลูกเต้นตุ๊บๆในจออัลต้าซาวด์แล้วรู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก หลังจากได้รับการยืนยันการมีตัวตนอย่างเป็นทางการของการตั้งครรภ์ เพราะที่ผ่านมายังงงๆ ท้อง-ไม่ท้อง แต่ก็ดีใจมากครับ จะเป็นพ่อคนแล้ว ต้องหาข้อมูลเยอะๆแล้วละ ไว้ครั้งหน้าหมอนัด 2 อาทิตย์ให้ยาบำรุงเลือดกับโฟลิคมากิน 14 เม็ดเป๊ะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะครับ.

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย

Toyota Camry Hybrid 2012 ที่จะทำตลาดในเอเชียในอีกไม่กี่เดือนนี้ โดยการเปิดตัวจะมีขึ้นไล่ๆกับเวอร์ชั่นอเมริกา(ที่ดูเพรียวบางจนหลายคนบอกว่าหน้าตาคล้ายกับ Altis ของบ้านเราในบางมุม) ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้ก็คือ เครื่องยนต์ 2AR-FXE 2.5L Hybrid (2,493 ซีซี) ที่มาแทนเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 206 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ CVT 6 สปีด (โดยจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดสำหรับรุ่น Base เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทดสอบตามมาตรฐานญี่ปุ่นอยู่ที่ 26.5 กิโลเมตร/ลิตร ที่ถือว่าประหยัดน้ำมันมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 1

Camry เจนเนอเรชั่นที่ 9 นี้ มีมิติตัวถังที่ 4,825×1,825×1,470 มิลลิเมตร (กว้างกว่าโฉมปัจจุบัน 5 มิลลิเมตร) ฐานล้อยาว 2,775 มิลลิเมตร (เท่าเดิม) โดยยังคงสร้างบน K-Platform เช่นเดิม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.28 จุดเด่นของรถรุ่นนี้อีกอย่างก็คือ พื้นที่จุสัมภาระที่กว้างขวางมากถึง 440-1,120 ลิตร(ที่คงต้องมีการพับเบาะนั่งลง?!)

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 2

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุเลียนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ โลหะ และลายไม้ มาพร้อมเทคโนโลยี/อุปกรณ์ต่างๆอย่างครบครันทั้งพวงมาลัยแบบ Multi-Function ช่องต่อเชื่อม iPod หลังคาซันรูฟไฟฟ้า จอแสดงผล Multi-Function โหมดการขับด้วยไฟฟ้า (EV Mode) และโหมดประหยัดน้ำมัน (ECO Mode) เบาะนั่งไฟฟ้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ทาง Toyota ยังเน้นให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยมีอุปกรณ์อย่างระบบแจ้งเตือนการชนด้านหลังที่มีจอแสดงผลบนคอนโซลกลาง กล้องช่วยมองหลังและด้านข้างของรถเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 3

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดข้างต้นคือ สเปคและรายละเอียดของ Camry รุ่นปี 2012 ที่จะจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและเอเชียส่วนใหญ่ รวมถึงออสเตรเลียในชื่อรุ่นว่า Aurion ซึ่งสำหรับโฉมของไทยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบางอย่าง

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 4

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 5

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 6

ขอบคุณเนื้อหาจาก

Toyota Camry Hybrid 2012 โฉมใหม่เวอร์ชั่นเอเชีย รูปที่ 7


Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest

Naza Quest ตัวแทนจำหน่ายรถจากค่าย Chevrolet แต่เพียงผู้เดียวในมาเลเซียได้ปล่อย Cruze รุ่นพิเศษออกมาให้สาวก Cruze ชาวไทยอิจฉาเพราะส่วนเกินห้ามใจ โดยจะมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 300 คันเท่านั้น เหตุผลในการผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะในการแข่งขัน WTCC ปี 2010 และเป็นเกียรติกับนักแข่งแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส Yvan Muller ซึ่ง Cruze Special Edition รุ่นนี้ใช้พื้นฐานของรุ่น 1.8 LT โดยมีการแต่งโฉมรอบคันพร้อมใส่ล้ออัลลอยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนราคาเริ่มต้นที่จำหน่ายจะไม่ต่ำกว่า 97,888 ริงกิตมาเลเซียซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่าประกันภัยและอื่นๆเอาไว้ด้วย

Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest  รูปที่ 1

ชุดแต่งบอดี้ของ Cruze รุ่นนี้ประกอบด้วยกันชนหน้าแบบใหม่ที่เน้นช่องไอดีให้ดูเด่นขึ้นมา สเกิร์ตข้าง กันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ฝังปลายท่อไอเสียซ้าย-ขวา สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง ไฟเลี้ยว LED ที่ครอบกระจกมองข้าง และคิ้วกันสาดประตู ส่วนล้ออัลลอยชุดใหม่เป็นขอบ 18 นิ้วทดแทนล้อชุดเดิมที่เป็นขอบ 16 นิ้ว หุ้มด้วยยางของ Falken ภายในใช้เบาะหนังเย็บตะเข็บสีแดง และมีชายบันไดเรืองแสงมีโลโก้ Cruze

Chevrolet Cruze รุ่นพิเศษปี 2011 จัดมาโดย Naza Quest  รูปที่ 2

ปกติไม่แต่งก็สวยอยู่แล้ว พอเสริมแอโรพาร์ตเข้าไปเต็มๆแบบนี้ อาจจะทำให้ Honda คิดหนักว่า Civic ตัวใหม่จะทำอย่างไรดีกับโฉมปี 2012 ที่เป็นอยู่?!

ขอบคุณเนื้อหาจาก

All-New Volkswagen Beetle ปี 2012 เต่าโฉมใหม่ รูปที่ 4

เคี้ยวมากกว่า 40 ที ช่วยลดน้ำหนักได้

เคล็ดลับสุขภาพ

เคี้ยวข้าวมากกว่า 40 ที ช่วยลดน้ำหนักได้ (ไทยโพสต์)

นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การเคี้ยวอาหารนานขึ้นช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะจะช่วยลดจำนวนแคลอรีที่ร่างกายได้รับจากการบริโภค

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์บินของจีน พบว่า อาสาสมัครที่เคี้ยวอาหาร 40 ครั้งจะได้รับปริมาณอาหารน้อยลง 12% เมื่อเทียบกับการเคี้ยวอาหารโดยปกติ 15 ครั้ง เนื่องจากการเคี้ยวอาหารนานขึ้น ช่วยให้สมองมีเวลามากขึ้นในการรับสัญญาณระดับอาหารของกระเพาะ นอกจากนี้ การเคี้ยวอาหารนานขึ้นยังช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน ที่ทำหน้าที่สร้างความรู้สึก “หิว” ในระบบทางเดินอาหาร

โดยการทดลองครั้งนี้ นักวิจัยได้ทำการเกณฑ์อาสาสมัครวัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีที่มีรูปร่างผอม 16 คน และรูปร่างอ้วนอีก 14 คน แล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อทำการทดลอง 2 ครั้ง โดยการทดลองครั้งแรกเป็นไปเพื่อสังเกตว่า คนที่มีรูปร่างอ้วนมีพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารแตกต่างจากผู้ที่มีรูปร่างผอมหรือไม่ ซึ่งผู้ทดลองได้ให้อาสาสมัครทั้งกลุ่มคนอ้วนและผอมรับประทานพายหมู และมีกล้องที่ถูกซ่อนไว้บันทึกจำนวนการเคี้ยวก่อนกลืนอาหาร ซึ่งผลการวิจัยพบว่า แม้คนอ้วนจะเคี้ยวอาหารด้วยความเร็วเท่ากับคนผอม แต่คนอ้วนกลืนอาหารเร็วกว่ามาก

ส่วนการวิจัยครั้งที่ 2 กำหนดให้อาสาสมัครทั้งสองกลุ่ม เคี้ยวพายหมูจำนวน 15 ครั้งก่อนกลืน แล้วเปรียบเทียบกับการเคี้ยวพายหมู 40 ครั้งก่อนกลืนอาหาร ซึ่งนักวิจัยพบว่าอาสาสมัครทั้งสองกลุ่มได้รับแคลอรีน้อยลง 11.9% เมื่อเคี้ยวอาหาร 40 ครั้ง ส่วนผลการตรวจเลือด 90 นาทีหลังทานอาหารพบว่า อาสาสมัครทุกคนมีระดับฮอร์โมนเกรลินในร่างกายเมื่อเคี้ยวอาหาร 40 ครั้ง น้อยกว่าเมื่อเคี้ยวอาหาร 15 ครั้ง

นักวิจัยระบุในข้อค้นพบที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร “American Journal of Clinical Nutrition” ว่า การกินช้าลงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ การกินเร็ว กินทีละมาก ๆ หรือดื่มหนักต่างมีผลช่วยให้น้ำหนักเกินได้ ซึ่งงานวิจัยชี้ว่า อาสาสมัครที่มีน้ำหนักมากมักเคี้ยวอาหารน้อยครั้งกว่า และกลืนอาหารเร็วกว่าคนที่มีรูปร่างผอม

ขณะที่ผลสำรวจชาวอังกฤษ 1,000 คน โดยธุรกิจร้านแซนด์วิช “ซับเวย์” พบว่า คนอังกฤษโดยเฉลี่ยเคี้ยวอาหารเพียง 6 ครั้งเท่านั้นแล้วกลืนอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25-34 เป็นกลุ่มที่ทานเร็วที่สุด และยังพบอีกว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 15% มักทานอาหารขณะเดิน และมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่นั่งทานอาหารบนโต๊ะเป็นประจำ

แคเธอรีน คอลลีนส์ หัวหน้าแพทย์แผนกการรับประทานอาหารประจำโรงพยาบาลเซนต์ จอร์จ กรุงลอนดอน กล่าวว่า นอกจากการกินช้าจะมีผลต่อฮอร์โมนทางเดินทางอาหารแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน โดยเธอกล่าวว่า เวลาเราทานอาหารเรามักไม่รู้ตัวว่าเราทานไปจำนวนมากแค่ไหน แต่การเคี้ยวอาหารนานขึ้นช่วยให้เราสามารถรับรู้รสชาติ กลิ่น และเนื้ออาหารได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เรารับรู้ว่าเรากำลังทานอะไร และทานเข้าไปมากแค่ไหน

          “ผลที่ได้ก็คือ เราไม่รู้สึกหิวง่าย ๆ แม้เพิ่งทานอาหารไปแค่สิบนาที”

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

ความอ้วนก็เหมือนกับมหันตภัยเงียบ ที่คุณคาดไม่ถึง ยิ่งในปัจจุบันนี้ที่กระแสของอาหารบุฟเฟ่ต์กำลังมาแรง แน่นอนว่า

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

นิสัยรักความคุ้มเกินคุ้มย่อมทำให้หลายๆ คนเผลอใจ จนในที่สุดห่วงยางเส้นโตก็จะมากองอยู่ที่พุงของคุณ แต่อย่าเพิ่งเป็นกังวลมากไป เพราะวันนี้เรามีเทคนิคสยบความอ้วนในแบบที่คุณจะต้องตะลึง

หากคุณเคยเห็นทหารหาญทั้งชายและหญิงถือปืนวิ่งรอบกองพัน เป็นการฝึกซ้อมเพื่อปกป้องประเทศชาติ เราเชื่อเลยว่าภาพนั้นคือ แรงบันดาลใจให้ใครหลายคนรู้สึกอยากจะออกไปปั้นหุ่นสวยๆ ซึ่งการฝึกแบบ ท.ทหาร อดทน นอกจากจะทำให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว เจ้าพวกไขมันยังจะมลายหายไปในพริบตา

ความอ้วนนะแย่

ยิ่งคุณมีรอบพุงมากเท่าไร ไขมันก็จะยิ่งสะสมในช่องท้องมากเท่านั้น ไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับมีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี จนเกิดเป็น โรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 ซม. จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคเบาหวาน 3-5 เท่า ดังนั้น

ผู้ที่อ้วนลงพุงร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอีก 2 ใน 4 อย่างต่อไปนี้ มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ และอัมพาต

ความดันโลหิตตั้งแต่ 130/85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป

น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

ระดับไขมันไตรกรีเซอร์ไรด์สูงตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

ระดับไขมัน เอช-ดี-แอล คอเลสเตอรอลต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชาย หรือ ต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้หญิง

พิชิตอ้วน พิชิตพุง

รู้หรือไม่? คุณสามารถมีสุขภาพดีขึ้นได้ ถ้าน้ำหนักตัวลดลง 5-10% ของน้ำหนักเริ่มต้น เพราะจะทำให้ไขมันในช่องท้องลดลงไปได้ 30% ซึ่งจะทำให้ไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตลดลงด้วย โดยคุณจะต้องยึดหลักการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ดังนี้

1.มีความตั้งใจ และมุ่งมั่นจริงๆ ที่จะพิชิตความอ้วน

2. อารมณ์ดี ไม่เครียด และสร้างความคิดที่ดีให้กับตนเอง เช่น โ€œเราต้องทำได้โ€

3.ตั้งเป้าหมายของน้ำหนักที่จะลด ซึ่งควรมีความเป็นไปได้ และไม่ลดน้ำหนักมากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

4. ควบคุมพลังงาน โดยต้องควบคุมจากอาหาร ซึ่งต้องค่อยๆ ปรับลดลง สำหรับผู้หญิงไม่ควรน้อยกว่าวันละ 1200 กิโลแคลอรี และผู้ชายไม่ควรน้อยกว่าวันละ 1600 กิโลแคลอรี

5. เผาผลาญพลังงาน ด้วยการเคลื่อนไหวออกแรง และออกกำลังกายเป็นประจำ

พิชิตอ้วนด้วยเทคนิคแบบทหาร

ขยับแบบ ท. ทหาร ช่วยสลายไขมัน

ขั้นตอนแรกของการจะพิชิตความอ้วน คงหนีไม่พ้นเรื่องของการออกกำลังกาย ซึ่งวันนี้เราจะชวนคุณมาม่วนกับกายบริหารแบบแข็งขันอย่างชายชาติทหาร ที่ทั้งมีระเบียบ แถมยังสร้างหุ่นเฟิร์มได้อีกด้วย

ขั้นที่ 1

ทุกเช้าและเย็น ทหารใหม่จะต้องมีการวิ่งรอบสนามอย่างต่ำเป็นจำนวน 2 รอบ ดังนั้น พลเรือนอยากผอมก็ต้อง ปฏิบัติ!

ขั้นที่ 2

ต่อกันด้วยการแตะสลับซ้ายขวาอย่างทหารที่ต้อง นับ 1 2 3 1 เท่ากับ 1 ยก ทำทั้งหมด 20 ยก แต่คุณอาจปรับเปลี่ยนให้น้อยลงหน่อยก็ได้

ขั้นที่ 3

เข้าสู่ท่าที่ 3 กับการเหวี่ยงแขนลอดใต้ขา ทำทั้งหมด 20 ยก

ขั้นที่ 4

ต่อกันด้วยการกระโดดตบแบบแมนๆ 20 ยก ซึ่งท่านี้จะช่วยให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน

ขั้นที่ 5

เสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนและช่วงอกกับการดันพื้นอีก 10 ยก ซึ่งท่าออกกำลังกายเหล่านี้จะช่วยอบอุ่นร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่คนอยากผอมควรคำนึงให้ดี เพราะคุณจะต้องควบคุมพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวัน

หลักง่ายๆ ในการกิน

– กินอาหารครบ 3 มื้อ และต้องไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ซึ่งการลดมื้ออาหารจะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง

– ลดปริมาณอาหารทุกมื้อที่กิน โดยเริ่มแรกให้ลดข้าวลงมื้อละ 1 ทัพพี งดของหวาน ลูกอม น้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากนั้นสัปดาห์ต่อไปให้เริ่มลดข้าว หรือลดแป้งให้เหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

– เลือกกินอาหารพลังงานต่ำ ซึ่งอาหารจำพวก ข้าวกล้อง ผักสด ผลไม้สด เนื้อปลา นมถั่วเหลือง น้ำเปล่า คุณสามารถสวาปามได้อย่างเต็มคราบ

-กินผักและผลไม้ในแต่ละมื้อให้มากขึ้น เพราะกากใยในผัก ผลไม้จะช่วยขับไขมันในอาหารทิ้ง และชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

– เคี้ยวอาหารช้าๆ โดยใช้เวลาเคี้ยวประมาณ 30 ครั้งต่อคำ และส่งอารมณ์ความรู้สึกพอใจในรสชาติของอาหารให้สมองรับรู้ศูนย์ควบคุมความหิว-ความอิ่มที่สมองจะรับรู้ว่ากินอิ่มแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 นาทีดังนั้นอาหาร 1 จานเล็ก ควรใช้เวลาในการรับประทาน ไม่น้อยกว่า 15 นาที

– ต้องอดทนถ้าเพิ่งกิน คือคุณต้องอดทนหลังจากทานอาหารว่า ต้องพอ เพราะหลังจากนั้นเพียง 10 นาที ร่างกายจะรู้สึกอิ่มได้ โดยอาจใช้วิธีการเปลี่ยนท่าทาง หรือไปทำอย่างอื่นแทน แต่ถ้าทานอาหารแล้วยังรู้สึกหิวอยู่ ให้ทานผลไม้รสหวานสักคำสองคำ หรือจะดื่มน้ำเปล่าก็สามารบรรเทาอาการหิวได้

เห็นหรือยังว่า ความอ้วนสามารถพิชิตได้ไม่ยาก ขอเพียงแค่ใจพร้อม คุณก็สามารถทำได้ ส่วนการออกกำลังกายให้สุขภาพดีอย่างทหารยังไม่จบเพียงเท่านี้ เอาเป็นว่า อย่าลืมติดตามกันให้ดีๆ เพราะหุ่นกล้ามปูแบบนายร้อยยังมีวิธีให้พลเรือนอย่างเราๆ ทำตามได้อีกเยอะ

ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info

ข้อมูลโดย : www.e-magazine.info

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สัปดาห์นี้เตรียมสูตรเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากผลไม้ สรรพคุณช่วยฟื้นบำรุงผิวพรรณ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งกลับจากทริปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดฤดูฮอต ที่แม้จะสนุกแต่ผิวพรรณคงแห้งกร้านและเปลี่ยนสีไป

สูตรนี้ต้องใช้ แตงโม ผลฉ่ำหวาน เป็นแหล่งรวมเบตาแคโรทีน กับวิตามินเอที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และทำความสะอาดผิว ให้ดูเปล่งปลั่ง ทั้งยังมีวิตามินซีกันโรคหวัด และโพแทสเซียมที่ช่วยคลายความเครียด

อีกอย่าง คือ สตรอว์เบอร์รี่ อุดมด้วยวิตามินซี กรดโฟลิก ไบโอติน แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส คลอรีน โซเดียม และกำมะถัน ที่มีสรรพคุณบำรุงผิวพรรณเช่นกัน

แตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ ฟื้นผิวหลังซัมเมอร์

ส่วนผสมควรเตรียมตามส่วนต่อไปนี้…
แตงโม 2 ถ้วย
สตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

ขั้นตอนในการทำ ล้างทำความสะอาดแตงโมและสตรอว์เบอร์รี่ จากนั้นหั่นผลไม้ทั้งสองชนิดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดพอประมาณ ไม่ต้องเลาะเอาเมล็ดออก จากนั้นปั่นพร้อมกันด้วยเครื่องปั่นพอแหลก แล้วจึงเติมน้ำแข็งป่นลงไป ไปต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี เทใส่แก้วแล้วดื่มทันที

หากปั่นน้ำแตงโม-สตรอว์เบอร์รี่ ตามสูตรข้างต้นแล้วดื่มเป็นประจำ พร้อมทั้งไม่ลืมดื่มน้ำสะอาด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และทาครีมบำรุงผิวอีกแรง ไม่นานผิวพรรณก็จะกลับมานุ่มเนียน ชุ่มชื่นอย่างเคย.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

6 ข้อเสียของการกินหนัก

6 ข้อเสียของการกินหนัก  การกินมากไปก็ทำให้เป็นทุกขลาภแห่งลำไส้ ซึ่งอาการจัดหนักจากการกินมากเกินไปในแต่ละมื้อโดยเฉพาะบุฟเฟ่ต์และท่านที่ชอบกินจนอิ่มมาถึงคอหอยก่อให้เกิดลาภลอยได้โรคดังต่อไปนี้

6 ข้อเสียของการกินหนัก

เริ่มตั้งแต่ ‘หิวไว’ คนกินหนักจะหิวไวในมื้อต่อไปครับ เพราะกระเพาะลำไส้ต้องทำงานหนักในการย่อยมื้อใหญ่ และน้ำตาลในเลือดก็จะลดไวทำให้เกิดอาการน้ำตาลต่ำหิวไวง่ายขึ้น

กินมากๆ ยังทำ ‘ไส้พัง’ เครื่องในก็เหมือนเครื่องรถที่ไม่ได้งดเว้นงานบ้างก็จะเสื่อมเร็ว อาหารที่เข้าไปมากทำให้ลำไส้เกิดปัญหา รั่ว ได้ และจากการบีบตัวไม่ได้พักก็ทำให้ กรดไหลย้อน มาถามหาได้เหมือนกัน

อาหารล้นท้องพลอยจะเจอ ‘ตาตั้ง’ ถ้าไม่ระวังกินจนอิ่มจัดจะทำให้เกิดอาการ ตื่นตา นอนไม่หลับเพราะลำไส้ไม่ได้พักและเกิดการแน่นอึดอัดท้องจากแก็สในอาหารที่หมักกันจนพุงหลามได้เหมือนถังเบียร์

กินจุคงเลี่ยง ‘นั่งอ้วน’ ได้ยาก ซึ่งตรงมาและตรงไปในบริบทของผู้รักบริโภค ยิ่งกินมื้อหนักอย่างบุฟเฟ่ต์มากเท่าไรก็ยิ่งได้แคลอรีส่วนเกินที่ลดยากขึ้นเท่านั้น เพราะการกินหนักเป็นบางมื้อทำให้ร่างกายเครียดและตับพังมีการหลั่งฮอร์โมนมารออกมาเพื่อเก็บไขมันไว้ให้มากขึ้นเพิ่มพูนน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

ทั้งยัง ‘ชวนหงุดหงิด’ ชีวิตแห่งการกินจะไม่มีวันสงบสุขด้วยอารมณ์ที่ทุกข์ขึ้นลงจากลิ้นที่ยึดรสเป็นสรณะ จะว่าคนอ้วนอารมณ์ดีนั้นก็ถูก แต่คนกินเก่งนั้นยากที่จะหาพื้นอารมณ์ที่แน่นมั่นคงได้เพราะเคมีในกายต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่อาหารเข้าปากและหนึ่งในเคมีที่ว่าคือ เคมีแห่งอารมณ์ ครับ

และสุดท้าย ‘คิดไม่ออก’ คนกินอิ่มจัดไปทำให้ หัวไม่แล่น ครับ หนึ่งคือจากเลือดพากันไปเลี้ยงไส้เสียมากกับสองคือจาก โกร๊ทฮอร์โมน ไม่หลั่ง ทำให้ไม่มีพลังทั้งแรงกายและแรงใจที่ใช้คิด ถ้าอยากมีสมองที่แจ่มใสขึ้นขอให้กินแบบ หิวนิดๆ ครับเป็นการสงวนความคิดไว้ไม่ให้จมไปกับมื้อหนักหมด

การกินเยอะสิ่งแล้วยังฟีเจอริ่งด้วยของหวานอีกก็ถือเป็นอนันตริยกรรมแห่งการบริโภคเหมือนกัน อย่าสำคัญตัวผิดว่าเป็นชูชกอยู่เพื่อกินหรือถือคติว่าท้องแตกดีกว่าของเหลือเพราะเมื่อถึงเวลาป่วยแล้วจะต้านไม่อยู่โรคจู่โจมแบบไม่ติดเบรค เพราะเครื่องยนต์กายเราไม่ได้ทำไว้ให้ กินจนล้น หากแต่สร้างไว้อย่างพอดีสำหรับให้กินอิ่มพอดีจนถึงว่า หิวนิดๆ ก็ยังอยู่ได้ด้วยมีระบบทดพลังงานไว้ให้ใช้ยามจำเป็น เห็นได้จากยามอดที่จะเกิดอาการง่วงซึมเพื่อจะได้ลดการใช้แรงลง แต่ในทางตรงข้ามยามอิ่มล้นเปี่ยมสุขร่างกายก็จะเกิดการง่วงเหมือนกันแต่เป็นการง่วงแบบกะปลกกะเปลี้ยที่เกิดจากอวัยวะภายในทำงานอย่างหนัก แล้วก็มัก ได้เรื่อง ตามมา

คราวหน้าจะกินหนัก คงต้องยั้งปากให้กินแค่พออิ่มกันแล้ว

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส  เราขอแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณได้เป็นเจ้าของร่างกายที่แข็งแรงฟิตเปรี๊ยะราวกับเด็กสาว เพียงคุณเล็งเห็นความสำคัญของปัจจัยพื้นฐานสามประการในการดำรงชีวิตต่อไปนี้ ความฝันของคุณที่จะมีหุ่นสวยสุขภาพดี และจิตใจที่แจ่มใสมีพลังก็จะเป็นความจริง

เคล็ดลับเด็ดๆเพื่อร่างกายฟิตพร้อมจิตแจ่มใส

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายทำให้สมองหลั่งสารเอนโดร์ฟิน หรือที่เรียกกันว่า สารแห่งความสุขออกมา สารนี้ช่วยให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น และช่วยผ่อนคลายความเครียด เพราะเอนโดร์ฟินทำหน้าที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด นอกจากนี้การออกกำลังกาย จะทำให้เกิดการแตกตัวของไขมันซึ่งจะทำให้ร่างกายสร้างแอล ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่คล้ายคลึงกับสารเซโรโทนินหรือสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกเป็นสุขออกมา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดความวิตกกังวลและทำให้ทัศนคติที่เรามีต่อตัวเองดีขึ้นอีกด้วย บ่อยครั้งที่เราจะรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้นหรือสัดส่วนกระชับขึ้นหลังออกกำลังกาย และไม่ว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก หรือแบบต้านแรงเช่น การยกน้ำหนัก หรือเล่นเวทจะทำให้เรารู้สึกสดใส มีพลังและยังมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นของแถม

ทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสามารถช่วยลดความเครียดได้ แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณรับประทานอาหารขณะรีบร้อนหรือรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวสูงเกินไปเช่น เค้ก คุ้กกี้ หรือน้ำอัดลม อาจทำให้คุณรู้สึกเครียดมากขึ้นได้ โดยปกติแล้วเรามักจะเผลอทานอาหารหวานจัดเวลาเครียดโดยคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มพลัง แต่ทางที่ดีคุณควรจะหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะอาหารสดๆที่ปราศจากสารปรุงแต่งจะช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โปรตีนคุณภาพจากปลา ไข่ หรือเต้าหู้ช่วยซ่อมแซมเนื่อเยื่อที่สึกหรอ ผักและผลไม้สดเป็นแหล่งสำคัญของใยอาหารรวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญต่อร่างกาย อาหารนมมี แอล ทริปโตเฟนสูงที่จะช่วยสร้างสารเซโรโทนิน กรดไขมันโอเมกาสามช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและช่วยแก้อาการซึมเศร้า ดังนั้นอย่าลังเลที่จะทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์เวลาที่คุณรู้สึกเครียด

นอนพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดี ถ้าเรานอนไม่พอร่างกายจะตกอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง และร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดที่เป็นพิษออกมาทำลายสุขภาพ จากการวิจัยพบว่าคนเราควรนอนหลับให้ได้โดยเฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล : วี สลิม บิวตี้ สปา (Vie Slim Beauty Spa)

ข้อมูลโดย : วี สลิม บิวตี้ สปา